แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยได้ถอนการยึดที่ดินที่ร้องขัดทรัพย์แล้ว การพิจารณาคดีร้องขอเข้าแทนที่ผู้มรณะชั้นร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องไม่เป็นประโยชน์อีกต่อไป จึงให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์และจำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว ต่อมาโจทก์ขอบังคับคดี ศาลชั้นต้นได้ตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีและโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 329 ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอเกาะเกร็ดจังหวัดนนทบุรี ของจำเลยไว้ ต่อมานางจันทร์ผู้ร้องขัดทรัพย์ยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจยึดที่ดินดังกล่าวมาขายทอดตลาด ขอให้ถอนการยึดที่ดิน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องผู้ร้องขัดทรัพย์อุทธรณ์ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
นางสาวเบ็ญจายื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นบุตรและเป็นทายาทโดยธรรมของนางจันทร์ผู้ร้องขัดทรัพย์ นางจันทร์ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2533 ผู้ร้องขอเข้าสวมสิทธิ (ขอรับมรดกความ)แทนนางจันทร์ผู้มรณะในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นนัดไต่สวน
จำเลยทั้งสามยื่นคำแถลงคัดค้านว่า ผู้ร้องขอรับมรดกความของผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งร้องขัดทรัพย์ในฐานะผู้จัดการมรดกผู้ร้องไม่มีสิทธิเข้ารับมรดกความแทนผู้จัดการมรดกผู้มรณะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 และในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยชำระเงินที่เป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์แล้ว และโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนการบังคับคดี ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาต และถอนการยึดทรัพย์แล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาคำร้องขัดทรัพย์อีกต่อไป ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
วันนัดไต่สวนคำร้อง โจทก์แถลงรับว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 329ที่ร้องขัดทรัพย์คดีนี้ โจทก์ได้ถอนการยึดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12มิถุนายน 2533 ทนายผู้ร้องแถลงว่า นางจันทร์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉ่ำ คงอ่อน นั้น ศาลฎีกาได้พิพากษาเมื่อวันที่ 25 กันยายน2529 ให้ถอดถอนนางจันทร์จากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉ่ำ คงอ่อน และโจทก์จำเลยแถลงรับกันว่า นางสาวเบ็ญจาผู้ร้องเป็นบุตรของนางจันทร์ผู้มรณะจริง ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้และสั่งงดไต่สวน ส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า คดีนี้นางจันทร์ ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกของนายฉ่ำ คงอ่อน เจ้ามรดกซึ่งการเป็นผู้จัดการมรดกนั้น เป็นสิทธิเฉพาะตัวของนางจันทร์เมื่อนางจันทร์ถึงแก่กรรมแล้ว การเป็นผู้จัดการมรดกย่อมระงับไปด้วย นางสาวเบ็ญจาผู้ร้องแม้จะเป็นบุตรและทายาทของนางจันทร์ก็จะเข้ามาเป็นคู่ความแทนนางจันทร์ผู้มรณะไม่ได้ เว้นแต่ผู้ร้องจะได้เป็นผู้จัดการมรดกของนายฉ่ำเจ้ามรดกก่อน ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องฎีกาว่า แม้การเป็นผู้จัดการมรดกเป็นสิทธิเฉพาะตัวของนางจันทร์ สนใจแท้ เมื่อนางจันทร์ถึงแก่กรรม การเป็นผู้จัดการมรดกย่อมสิ้นลง นางจันทร์มิได้ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดในฐานะที่ตนครอบครองปรปักษ์ในที่ดินที่ยึดอีกฐานะหนึ่งด้วย เมื่อนางจันทร์ถึงแก่กรรม ฐานะผู้จัดการมรดกเป็นสิทธิเฉพาะตัวระงับไป แต่ฐานะเป็นผู้ครอบครองปรปักษ์ในที่ดินที่ยึดยังมีอยู่ ผู้ร้องจึงเข้าเป็นคู่ความแทนที่นางจันทร์ผู้มรณะ ขอให้ปล่อยที่ดินที่ยึดต่อไปได้ นั้นข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของจำเลยได้ถอนการยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 329 ที่ร้องขัดทรัพย์คดีนี้ไปแล้วตั้งแต่วันที่12 มิถุนายน 2533 ศาลฎีกาเห็นว่า ในชั้นนี้การพิจารณาคดีร้องขอเข้าแทนที่ผู้มรณะชั้นร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้อง ไม่เป็นประโยชน์อีกต่อไป
จึงให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ