คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6035/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ร่วมมอบสร้อยคอทองคำให้จำเลยไปขาย จำเลยจะขายได้ราคาสูงเท่าใดก็เป็นเรื่องของจำเลย แต่จำเลยต้องนำเงิน 3,500 บาทมาคืนให้โจทก์ร่วม ดังนี้ กรณีมิใช่จำเลยได้รับมอบหมายสร้อยไว้แทนโจทก์ร่วม แต่เป็นการขายเชื่อสร้อยคอทองคำให้จำเลย เมื่อจำเลยไม่คืนหรือชำระราคาสร้อยคอทองคำให้โจทก์ก็เป็นเพียงผิดสัญญาทางแพ่ง ไม่เป็นความผิดฐานยักยอก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 3,500 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
นายวุฒิพงษ์ สุขสมานพาณิชย์ ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 จำคุก 4 เดือน กับให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์สิน3,500 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้เป็นยุติตามที่คู่ความนำสืบรับกันว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยได้รับมอบสร้อยคอทองคำหนักสองสลึง1 เส้น ราคา 3,500 บาท ไปจากโจทก์ร่วม และจำเลยได้นำสร้อยคอทองคำนั้นไปขายให้แก่ผู้อื่น คดีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมในชั้นนี้ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกตามฟ้องหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความตามคำเบิกความของโจทก์ร่วมว่า จำเลยยืมสร้อยคอทองคำหนักสองสลึง 1 เส้นของโจทก์ร่วมไปเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2528 เพื่อนำไปเสนอขายให้เพื่อนบ้านโดยตกลงราคาสร้อยคอทองคำนั้น 3,500 บาท และตกลงว่าหากจำเลยขายสร้อยคอทองคำนั้นไม่ได้ก็จะนำมาคืนให้โจทก์ร่วมหากขายได้ก็จะนำเงินมาให้โจทก์ร่วมภายในวันที่ 1 มกราคม 2529และโจทก์ร่วมตอบจำเลยถามค้านว่าจำเลยเคยยืมสร้อยคอทองคำไปจากโจทก์ร่วมหลายครั้งโดยกำหนดราคากันไว้ หากจำเลยนำไปขายได้ราคาสูงกว่าเท่าไรก็เป็นของจำเลย ราคา 3,500 บาท เป็นราคาที่โจทก์ร่วมตั้งไว้สำหรับขาย ตามพฤติการณ์ดังที่กล่าวมาแสดงให้เห็นว่า โจทก์ร่วมได้มอบสร้อยคอทองคำหนักสองสลึง 1 เส้นให้จำเลยไปขายโดยไม่มีข้อจำกัดว่าจำเลยจะต้องขายในราคาเท่าใด จำเลยจะนำไปขายได้ราคาสูงต่ำอย่างไรก็เป็นเรื่องของจำเลยโดยเฉพาะเงินที่ขายสร้อยคอทองคำดังกล่าวได้ก็ตกเป็นของจำเลย เพียงแต่จำเลยมีความผูกพันว่าจะต้องนำเงินจำนวน 3,500 บาท มาคืนให้แก่โจทก์ร่วมตามที่ได้ตกลงกันไว้เท่านั้น กรณีจึงมิใช่จำเลยได้รับมอบหมายสร้อยคอทองคำไว้แทนโจทก์ร่วม แต่เป็นกรณีที่โจทก์ร่วมได้ขายเชื่อสร้อยคอทองคำให้จำเลย เมื่อจำเลยไม่คืนหรือชำระราคาสร้อยคอทองคำให้โจทก์ ก็เป็นเพียงการผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้ซึ่งโจทก์มีสิทธิฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวได้เพราะเป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง กรณีเช่นนี้ไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญา การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานยักยอกตามฟ้อง”
พิพากษายืน

Share