แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ยังค้างชำระเงินบำเหน็จค่าฝากปลาทูนึ่ง ซึ่งจำเลยที่ 1 มีสิทธินำมาหักกลบลบหนี้กับค่าเสียหายของโจทก์ได้ แต่ตามคำให้การ จำเลยที่ 1 มิได้แสดงเจตนาที่จะหักกลบลบหนี้แก่โจทก์ และทางนำสืบของจำเลยที่ 1 ก็ปรากฏว่าเงินบำเหน็จค่าฝากทรัพย์ดังกล่าวยังคงมีข้อโต้แย้งและเป็นจำนวนที่ไม่แน่นอน สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1 ยังมีข้อต่อสู้อยู่ จึงไม่อาจนำมาหักกลบลบหนี้กันได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 342 วรรคหนึ่ง และมาตรา 344
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด มีจำเลยที่ ๓ และที่ ๔ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ร่วมกันเป็นหุ้นส่วนประกอบกิจการห้องเย็นรับฝากสิ่งของประเภทอาหารจากบุคคลทั่วไปรวมทั้งโจทก์โดยมีบำเหน็จค่าฝาก จำเลยทั้งสี่ได้รับฝากปลาทูนึ่งของโจทก์ไว้ในห้องเย็นของจำเลย ทั้งสี่รวม ๖๖๘ หลัว(หลัว คือ เข่งใหญ่) ราคา ๑,๒๓๔,๕๘๐ บาท เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๖ จำเลยทั้งสี่ร่วมกันกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยมิได้ระมัดระวังใช้ฝีมือสงวนทรัพย์ของโจทก์ที่ฝากไว้ จงใจและประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ในห้องเย็น ทำให้ปลาทูนึ่งทั้งหมดของโจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ ร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าเสียหาย พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสี่ให้การว่าเหตุเพลิงไหม้ห้องเย็นของจำเลยที่ ๑ เป็นเหตุสุดวิสัย อีกทั้งขณะเกิดเหตุคงเหลือปลาทูของโจทก์ที่ฝากไว้เพียง ๓๐๐ หลัวเศษ ปลาทูนึ่งที่เกิดเพลิงไหม้มีประมาณไม่เกิน ๕,๐๐๐ เข่ง ราคาเข่งละ ๖ บาท คิดเป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท เมื่อหักกลบหนี้กับเงินบำเหน็จค่าฝากปลาทูนึ่งให้ห้องเย็นของจำเลยที่ ๑ ที่โจทก์ค้างชำระแล้วโจทก์ยังคงค้างชำระเงินบำเหน็จค่าฝากทรัพย์แก่จำเลยที่ ๑ อีกเป็นเงินกว่า ๑๐๐,๐๐๐ บาท ความเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลังจากเกิดเหตุเป็นความผิดของโจทก์เอง จำเลยทั้งสี่ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์แต่อย่างใด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินค่าปลาทูนึ่ง ๖๖๘ หลัว ราคา ๙๙๐,๑๐๐ บาท กำไร ๑๒๒,๒๔๐ บาท รวมเป็นเงินจำนวน ๑,๑๑๒,๓๔๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๖ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ ๑๐,๐๐๐ บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนเท่าจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินจำนวน ๙๙๐,๒๙๙ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๖ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า
โจทก์จะต้องชำระเงินค่าฝากปลาทูนึ่งแก่จำเลยที่ ๑ หรือไม่ จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่า เงินบำเหน็จค่าฝากปลาทูนึ่งหลัวละ ๔๐ บาท ต่อเดือน เฉลี่ยแล้ว ฝาก ๑ เดือน ๑๕ วัน หากโจทก์ฝาก ๖๖๘ หลัว โจทก์ก็ยังคงค้างเงินบำเหน็จค่าฝากแก่จำเลยที่ ๑ จำนวน ๔๐,๐๘๐ บาท เป็นอย่างน้อย จำเลยที่ ๑ จึงมีสิทธิที่จะนำเงินค่าฝากดังกล่าวหักจากค่าเสียหายของโจทก์นั้น ได้ความจากทางนำสืบของโจทก์และจำเลยที่ ๑ ว่า ในธรรมเนียมปฏิบัติโจทก์จะชำระเงินบำเหน็จค่าฝากปลาทูนึ่งแก่จำเลยที่ ๑ ต่อเมื่อโจทก์นำปลาทูนึ่งออกจากห้องเย็นแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า วันเกิดเหตุคงมีปลาทูนึ่งของโจทก์ฝากอยู่ในห้องเย็นของจำเลยที่ ๑ จึงฟังได้ว่าโจทก์ยังค้างชำระเงินบำเหน็จค่าฝากปลาทูนึ่งจำนวนดังกล่าว ซึ่งจำเลยที่ ๑ มีสิทธินำมาหักกลบลบหนี้กับค่าเสียหายของโจทก์ได้ แต่ตามคำให้การของจำเลยที่ ๑ มิได้แสดงเจตนาที่จะหักกลบลบหนี้แก่โจทก์ ทางนำสืบของจำเลยที่ ๑ ก็ปรากฏว่าเงินบำเหน็จค่าฝากทรัพย์ดังกล่าว ยังคงมีข้อโต้แย้งและเป็นจำนวนที่ไม่แน่นอน สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ ๑ ยังมีข้อต่อสู้อยู่ จึงไม่อาจนำมาหักกลบลบหนี้ ได้ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๔๒ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๓๔๔ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์โดยมิได้หักกลบลบหนี้ค่าฝากทรัพย์แก่จำเลยที่ ๑ นั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ ๑ ในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
สรุปแล้ว โจทก์เสียหายจากค่าปลาทูนึ่ง ๔๐๐ หลัว และกำไรเป็นเงินจำนวน ๖๑๔,๗๙๗.๖๐ บาท เมื่อนำเงินค่า ขายซากปลาทูนึ่งจำนวน ๓๖,๔๑๓ บาท มาหักออกแล้วคงเหลือค่าเสียหายจำนวน ๕๗๘,๓๘๔.๖๐ บาท
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินจำนวน ๕๗๘,๓๘๔.๖๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๖ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๗