คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา149ระบุว่าศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเว้นแต่ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีล้มละลายและพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา23วรรคหนึ่งระบุว่าศาลชั้นต้นนอกจากศาลแขวงต้องมีผู้พิพากษาอย่างน้อยสองคนจึงเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งปวงดังนั้นคำสั่งศาลชั้นต้นของผู้พิพากษานายเดียวที่ให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา107จึงถือว่าไม่ครบองค์คณะเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142 (5)ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา153

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ (จำเลย) ทั้งสามเด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 14 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2535 เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามสัญญาจ้างเป็นเงิน 1,140,646.88 บาทจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 1 และที่ 2 รายละเอียดปรากฎตามบัญชีท้ายคำขอรับชำระหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 104 แล้วไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้รายนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วเสนอความเห็นต่อศาลชั้นต้นว่า ควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้เสียทั้งสิ้นตามมาตรา 107 (1) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้รายนี้ ให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แก้อุทธรณ์เอง จึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้
เจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฎว่าคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งโดยผู้พิพากษานายเดียวอันเป็นการสั่งตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 107 ซึ่งระบุว่า คำขอรับชำระหนี้รายใดถ้ามีผู้โต้แย้งให้ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (1) ให้ยกคำขอรับชำระหนี้ และมาตรา 149ระบุว่าศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเว้นแต่ศาลแขวง มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีล้มละลายและพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 23 วรรคหนึ่ง ระบุว่า ศาลชั้นต้นนอกจากศาลแขวงต้องมีผู้พิพากษาอย่างน้อยสองคน จึงเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งปวง ดังนั้น คำสั่งของผู้พิพากษานายเดียวในกรณีนี้จึงถือว่าไม่ครบองค์คณะเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เอง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5) ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 2ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีคืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาทั้งหมดแก่เจ้าหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แก้ฎีกาเองจึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นฎีกาให้

Share