คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6031/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีอาญา การอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมีบทบัญญัติไว้โดยชัดเจนในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 วรรคแรก แล้วว่า ให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์จึงนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิมาอนุโลมใช้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15หาได้ไม่ การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์ คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยตรงมายังศาลฎีกาจึง เป็นการไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว วินิจฉัยว่าการออกเช็คพิพาทของจำเลยถือไม่ได้ว่าจำเลยออกเช็ค เพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายให้แก่โจทก์ การกระทำของจำเลยจึงขาดองค์ประกอบความผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์และยื่นคำร้องว่ากรณีเป็นการอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโจทก์ประสงค์จะยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา จึงขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในคดีอาญา การอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมีบัญญัติไว้โดยชัดเจนในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคแรกแล้วว่า ให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ จึงจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ มาอนุโลมบังคับใช้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15หาได้ไม่ฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษายกฟ้องของศาลชั้นต้นโดยตรงมายังศาลฎีกาจึงเป็นการไม่ชอบเพราะขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 193 วรรคแรกดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์

Share