คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนเดินรถโดยสารประจำทางกับจำเลยที่1โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับขี่ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ควบคุมรถและเก็บค่าโดยสาร ถ้าจำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้บุตรโจทก์ถึงแก่ความตายและตัวโจทก์ได้รับบาดเจ็บ จำเลยที่ 2 ก็ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 1 กระทำต่อโจทก์เช่นเดียวกับตัวการต้องร่วมรับผิดกับตัวแทนตามนัยมาตรา 1042และ 427 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองเข้าหุ้นส่วนเป็นเจ้าของรถยนต์รับจ้างเลขทะเบียน ส.น. 0129 รับขนส่งคนโดยสารและสินค้า เดินประจำระหว่างบ้านบ่อแสนพัน-ท่าแร่ และสกลนคร จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับขี่จำเลยที่ 2 เป็นผู้ควบคุมรถและเก็บเงินค่าโดยสาร เป็นตัวการตัวแทนซึ่งกันและกัน จำเลยที่ 1 ขับขี่รถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้รถคว่ำรถทับเด็กหญิงวัชรีบุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย และโจทก์ได้รับบาดเจ็บจึงฟ้องขอบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวมเป็นเงิน 30,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยที่ 1 ให้การว่า กิจการเดินรถเป็นของจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวจำเลยที่ 1 มิได้ขับรถโดยประมาท ค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องสูงเกินไป

จำเลยที่ 2 ให้การว่ามิได้เป็นเจ้าของรถคันเกิดเหตุร่วมกับจำเลยที่ 1 และมิได้จัดการเดินรถเพื่อหาเงินร่วมกับจำเลยที่ 1 ทั้งมิได้เป็นนายจ้างหรือหุ้นส่วนร่วมกับจำเลยที่ 1

ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทจำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิด พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้บุตรโจทก์ถึงแก่ความตายและโจทก์ได้รับบาดเจ็บ จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนเดินรถกับจำเลยที่ 1 ด้วย ต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์และเห็นควรให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับบุตรโจทก์ 5,000 บาท และสำหรับตัวโจทก์ 5,700 บาทพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนเงินดังกล่าวแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย

โจทก์ฎีกาขอให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนที่ฟ้อง

จำเลยที่ 2 ฎีกาว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนเดินรถกับจำเลยที่ 1 หากเสียหายจริงก็ไม่เกินค่าเสียหายที่จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้ไว้

ศาลฎีกาฟังว่า ข้อเท็จจริงน่าเชื่อตามคำพยานโจทก์ว่าจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนเดินรถกับจำเลยที่ 1 และวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อโจทก์เนื่องในการดำเนินกิจการของหุ้นส่วน จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 1 กระทำต่อโจทก์เช่นเดียวกับตัวการต้องร่วมรับผิดกับตัวแทนตามนัยมาตรา 1042 และ 427 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ส่วนค่าเสียหายเห็นว่าศาลอุทธรณ์กำหนดมาชอบแล้ว พิพากษายืน

Share