แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าโจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อเสาโทรเลขให้แก่กรมไปรษณีย์โทรเลขแล้วโจทก์กับจำเลยเข้าหุ้นกันทำเสาส่งและจำเลยเป็นผู้เข้าทำสัญญากับกรมไปรษณีย์โทรเลขเสียเองโจทก์มิได้มอบหมายให้จำเลยทำการแทนหรือรับมอบเงินแทน เมื่อจำเลยได้รับเงินมาแล้วเพิกเฉยยังไม่แบ่งปันให้โจทก์ เพียงเท่านี้จะถือว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ไม่ได้
ย่อยาว
อัยการโจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2498 เป็นต้นมาถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2498 จำเลยกับนายเหมิก คงชาติ ได้ตกลงเข้าหุ้นส่วนกันรับตัดต้นไม้เสาโทรเลขส่งขายให้แก่กรมไปรษณีย์โทรเลข 100 ต้น ราคาต้นละ118 บาท รวมราคา 11,800 บาท โดยมีข้อตกลงระหว่างจำเลยกับนายเหมิก คงชาติ ว่า ได้ผลกำไรเท่าไรให้แบ่งกำไรเท่ากัน นายเหมิก คงชาติ ได้มอบหมายให้จำเลยเซ็นเป็นคู่สัญญากับกรมไปรษณีย์โทรเลข ตลอดจนมอบหมายให้จำเลยเป็นคนเซ็นรับเงินจากกรมไปรษณีย์โทรเลขแล้วนำมาใช้จ่ายและแบ่งกำไรกัน ครั้นระหว่างตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2498 ถึงวันที่ 10 มกราคม 2499 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดว่าเวลากลางวันและกลางคืน จำเลยได้รับเงิน 11,800 บาทซึ่งเป็นเงินค่าขายไม้เสาจากกรมไปรษณีย์โทรเลข จำเลยจะต้องนำเงินไปชำระค่าแรงงานในการตัดฟันเสาและขนส่งให้แก่นายคำมี ครองเคหา นายพัน ทวีชีพนายพิมพ์ นาอุดม กับพวกรวม 2,250 บาท และจะต้องแบ่งผลกำไรให้แก่นายเหมิก คงชาติ 2,554 บาท 50 สตางค์ แต่จำเลยได้บังอาจมีเจตนาทุจริตคิดเบียดบังยักยอกเอาเงินทั้ง 2 จำนวนดังกล่าวแล้วไปเป็นอาณาประโยชน์ของจำเลยเสีย หาได้นำเงินไปชำระค่าแรงงานและแบ่งปันผลกำไรแก่ผู้มีนามดังกล่าวตามที่ได้รับมอบหมายไว้ไม่ เหตุเกิดที่ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ต่อมาวันที่ 10 มกราคม 2499 ผู้เสียหายได้รู้ถึงการกระทำผิดของจำเลย จึงได้ร้องทุกข์มอบคดีให้เจ้าพนักงานดำเนินการตามกฎหมาย
ก่อนคดีนี้ จำเลยเคยต้องโทษฐานทำร้ายร่างกายมาแล้ว 1 ครั้งตามสำนวนคดีแดงที่ 114/2494 ของศาลจังหวัดชัยภูมิ ศาลพิพากษาปรับ 80 บาทจำคุก 1 เดือน โทษจำยก จำเลยพ้นโทษไปยังไม่เกิน 5 ปีมากระทำผิดคดีนี้อีกไม่เข็ดหลาบ และจำเลยเป็นจำเลยคนเดียวกันกับจำเลยในสำนวนคดีอาญาดำที่ 132/2499 ของศาลจังหวัดชัยภูมิขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314, 319, 72 และสั่งคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่เจ้าทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธ คงรับในข้อหาว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษกับเป็นจำเลยคนเดียวกันกับจำเลยในสำนวนคดีอาญาที่กล่าวในฟ้อง
นายเหมิก คงชาติ ผู้เสียหายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการศาลอนุญาต
ศาลจังหวัดชัยภูมิพิจารณาแล้วเห็นว่า รูปเรื่องจะปรับเป็นความผิดทางอาญาไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
พนักงานอัยการโจทก์และนายเหมิก โจทก์ร่วมอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
พนักงานอัยการโจทก์ฎีกาอ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์รับฟังมานั้น เป็นความผิดในทางอาญาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์รับฟังมาได้ความว่า ในการที่กรมไปรษณีย์โทรเลขเปิดการประมูลซื้อเสาโทรเลข 100 ต้นรายนี้ นายเหมิก โจทก์ เป็นผู้ประมูลได้แล้วนายเหมิกโจทก์กับจำเลยได้เข้าหุ้นส่วนกันทำเสาส่งและจำเลยเป็นผู้เข้าทำสัญญากับกรมไปรษณีย์โทรเลขเสียเอง นายเหมิก โจทก์ มิได้มอบหมายให้จำเลยทำการแทนหรือรับมอบเงินแทน จำเลยได้รับเงินมาแล้วเพิกเฉย ยังไม่แบ่งปันให้นายเหมิก โจทก์ ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยคิดทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์อันจะเป็นความผิดทางอาญาฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314 จึงพิพากษายืน