คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีภริยาตกลงหย่ากันโดยทำหนังสือหย่าขึ้น 2 ฉะบับ ต่างยึดถือไว้คนละฉะบับ มีข้อความอย่างเดียวกัน และมีผู้รู้เห็นเป็นพยานเกินกว่า 2 คน ต่างกันแต่ว่าฉะบับที่สามียึดไว้ภริยาเป็นผู้ลงนาม ฉะบับที่ภริยายึดไว้สามีเป็นผู้ลงนาม หาได้ลงนามทั้งสามีภริยาในเอกสารฉะบับเดียวกันไม่ ดังนี้
วินิจฉัยว่า หนังสือหย่าเช่นนี้สมมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว ไม่ขัดต่อ ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1498

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ได้ตกลงหย่าขาดจากสามีภริยากันกับจำเลย และได้แบ่งปันทรัพย์สินสมรสกันไปแล้วบางอย่าง คงเหลือแต่นาพิพาทราคา ๑๐๐๐๐ บาท จำเลยไม่ยอมแบ่ง จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่า ยังมิได้หย่ากันและนาพิพาทก็ว่าเป็นสินเดิมของจำเลย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การหย่าระหว่างโจทก์จำเลยยังไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า โจทก์จำเลยได้หย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากันแล้ว ให้แบ่งนาพิพาทเป็น ๓ ส่วน โจทก์ได้ ๑ ส่วน จำเลยได้ ๒ ส่วน ฯลฯ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ปรากฎว่าในการทำหนังสือหย่า โจทก์จำเลยทำขึ้น ๒ ฉะบับ ต่างยึดถือไว้คนละฉะบับ มีข้อความอย่างเดียวกัน และมีผู้รู้เห็นเป็นพยานเกินกว่า ๒ คน ต่างกันแต่ว่า ฉะบับที่โจทก์ยึดถือไว้ จำเลยเป็นผู้ลงนาม ส่วนฉะบับที่จำเลยยึดถือไว้ โจทก์เป็นผู้ลงนาม หาได้ลงนามทั้งโจทก์จำเลยในเอกสารฉะบับเดียวกันไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า หนังสือหย่าเช่นนี้สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว ไม่ขัดต่อ มาตรา ๑๔๙๘ แห่ง ประมวลแพ่งฯ คดีฟังได้ว่า โจทก์จำเลยหย่าขาดจากกันแล้ว ฯลฯ
จึงพิพากษายืน

Share