คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การนับวันครบกำหนดแห่งอายุความในคดีอาญาเป็นไปตาม พรบวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.139 และประมวลแพ่ง ม.161 วันสุดท้ายแห่งอายุความยื่น+เป็นวันศาลหยุด โจทก์ย่อมฟ้องในวันถัดจากวันอาทิตย์+ได้ ไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันหลอกลวงโจทก์ว่านางเพิ่มขอกู้เงินโจทก์ และนำหนังสือซึ่งอ้างว่าลงลายมือชื่อนางเพิ่มมาให้โจทก์ยึดไว้ โจทก์หลงเชื่อมอบเงินกู้ให้จำเลยไป ภายหลังโจทก์ฟ้องเรียกเงินจากนางเพิ่ม ๆ ปฏิเสธสัญญากู้ ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์จึงทราบว่าถูกจำเลยฉ้อโกง ขอให้ลงโทษ
ศาลอาญาฟังว่าโจทก์รู้ความผิดแลรู้ตัวผู้ทำผิดตั้งแต่วันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๗ โจทก์ยื่นข้อกล่าวหาต่อศาลโปริสภาวันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๗ เป็นเวลาเกิน ๓ เดือนคดีขาดอายุความให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๗ ซึ่งเป็นวันครบกำหนด ๓ เดือนเป็นวันอาทิตย์ ฉะนั้นโจทก์ยื่นฟ้องในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๗ จึงไม่ขาดอายุความตาม พรบวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.๒๑๓๙ และประมวลแพ่ง ฯ ม.๑๖๑ จึงพิพากษาให้ศาลอาญาพิจารณาคดีต่อไป
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์

Share