คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อโจทก์อ้างในฟ้องว่าจำเลยขุดเหมืองและยกคันกั้นน้ำลำห้วยสาธารณะ ไม่ให้น้ำใหลไปตามปกติเป็นเหตุให้นาโจทก์ไม่ได้น้ำอย่างที่เคยมาแต่ก่อน ต้นข้าวจึงเสียหาย เช่นนั้นย่อมแสดงว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลยตามฟ้องโจทก์โจทก์ จึงเป็นผู้เสียหายมีสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องได้

ย่อยาว

คดีชั้นนี้คงมีประเด็นเฉพาะในเรื่องอำนาจฟ้องว่าจำเลยสมคบกันขุดดินยกเป็นคันนาขึ้นปิดลำห้วยสาธารณะและขุดเหมืองน้ำไหลลึกกว่าระดับนาของโจทก์ ทำให้น้ำที่โจทก์เคยอาศัยทำนาไหลไปสู่นาจำเลยที่ 2, 4 หมด เป็นเหตุให้ข้าวของโจทก์ตาย จึงขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและทำลายคันดินที่ปิดกั้นน้ำให้น้ำเดินไปโดยปกติ

จำเลยต่อสู้ว่าได้ตกลงกับโจทก์แล้วและโจทก์ก็ได้ใช้น้ำตามปกติ ฯลฯ

คู่ความรับกันว่าเหมืองน้ำและลำห้วยนี้ของสาธารณะประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน

ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่าเป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอจะว่ากล่าวจำเลยไม่ใช้ผู้เสียหายไม่มีสิทธิฟ้อง พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าตามฟ้องโจทก์ได้อ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษเนื่องจากการกระทำโดยตรงของจำเลย โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องร้องจำเลยได้

พิพากษายืน

Share