คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องแย้งของจำเลยที่ขอให้ตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีและเอกสารของธนาคารโจทก์เพื่อแสดงผลความรับผิดชอบว่าใครเป็นหนี้ใครเท่าใดเป็นเรื่องจำเลยแสวงหาหลักฐานเพื่อสู้คดี มิใช่เป็นการเสนอข้อหาต่อศาล ไม่ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญากับโจทก์เพื่อดำเนินกิจการธนาคารสาขาเป็นตัวแทนของโจทก์ จำเลยที่ 1 ทำผิดสัญญา มีการจ่ายเงินให้กู้ยืมและให้เบิกเงินเกินบัญชีเป็นลูกหนี้ที่เรียกเก็บไม่ได้ และไม่สามารถบังคับให้ชำระหนี้ได้ เป็นเงิน 13,361,390 บาท จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดใช้ให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 ที่ 4 ได้จดทะเบียนจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันการที่จำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์สำหรับความเสียหายทั้งปวงตามสัญญา จึงขอบังคับให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน 13,361,390 บาทให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ให้การปฏิเสธความรับผิด และอ้างว่าตามสัญญาโจทก์ต้องแบ่งผลกำไรให้จำเลยที่ 1 แต่โจทก์ไม่เคยแบ่งให้จำเลยที่ 1 เลย จำเลยที่ 1 ยังมีส่วนจะได้เงินจากโจทก์อยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นจำเลยที่ 1 ยังถือหุ้นอยู่ในธนาคารโจทก์เป็นจำนวนมาก และมีเงินฝากอยู่ ทั้งโจทก์ไม่ได้คิดแบ่งเงินปันผลในหุ้นที่ถือโดยถูกต้องและครบถ้วนเชื่อแน่ว่าคิดบัญชีหักกลบลบกันแล้ว โจทก์จะต้องใช้เงินแก่โจทก์ จึงถือได้ว่าไม่มีหนี้ที่จะต้องรับผิดตามฟ้อง และฟ้องแย้งว่า ขอให้ตั้งหัวหน้ากองหมายหรือหัวหน้ากองบังคับคดีล้มละลายหรือบุคคลอื่นที่มีวุฒิทางบัญชีเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีและเอกสารของธนาคารโจทก์ เพื่อแสดงผลความรับผิดชอบและใครเป็นหนี้ใครเท่าใด

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การของจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ส่วนฟ้องแย้งนั้นไม่มีเหตุผลตามกฎหมายที่จะดำเนินการกับโจทก์เช่นนั้นได้ จึงไม่รับฟ้องแย้ง

จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 อุทธรณ์คำสั่งขอให้รับฟ้องแย้ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้ออ้างที่จำเลยว่าเป็นฟ้องแย้งนั้นก็คือ เรื่องขอให้ตั้งบุคคลตามที่ระบุขอมาดังกล่าว เพื่อตรวจสอบสมุดบัญชีและเอกสารของธนาคารสาขาสำเพ็งและธนาคารโจทก์ที่สำนักงานใหญ่ เพื่อแสดงผลว่าจำเลยไม่เป็นหนี้โจทก์ตามที่โจทก์ฟ้องซึ่งจำเลยปฏิเสธความรับผิด การที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์อย่างไรนั้น เป็นหน้าที่โจทก์ที่จะต้องนำสืบ และเมื่อจำเลยปฏิเสธความรับผิด ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยจะนำสืบหักล้างข้ออ้างของโจทก์แต่เหตุที่จำเลยอ้างเป็นฟ้องแย้งมานั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่จำเลยจะแสวงหาหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีของจำเลยนั่นเอง มิใช่เป็นการเสนอข้อหาต่อศาล ไม่ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง

พิพากษายืน

Share