แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในความผิดฐานพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โจทก์มีหน้าที่นำสืบว่าจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตดังกล่าว เมื่อโจทก์ไม่นำสืบก็ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคแรก ประกอบมาตรา 72 ทวิวรรคสองไม่ได้ คงลงโทษได้เพียงฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันพาอาวุธปืนลูกซองสั้นไปในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ กับร่วมกันใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงขึ้นฟ้าโดยใช่เหตุร่วมกันพรากนางสาวสงกรานต์ แทนเพชร อายุ ๑๖ ปี ไปจากนางลำใย แทนเพชร มารดาเพื่อการอนาจาร โดยนางสาวสงกรานต์ไม่เต็มใจไปด้วย แต่จำเลยใช้อาวุธปืนขู่ว่าจำทำอันตรายต่อชีวิต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๔, ๓๑๘, ๓๗๖, ๕๘, ๘๓, ๙๑ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๔, ๙ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ, ๗๒ ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ข้อ ๓, ๗ และนำโทษจำเลยที่ ๑ ในคดีหมายเลขแดงที่ ๒๖๔๘/๒๕๒๖ ของศาลชั้นต้นมาบวกกับโทษจำเลยในคดีนี้ ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๔ จำคุก ๔ ปี มาตรา ๓๑๘ จำคุก ๖ ปี มาตรา ๓๗๖ จำคุก ๑๐ วัน มาตรา ๓๗๑ และพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ วรรคแรก และ ๗๒ ทวิ วรรคสอง ลงโทษบทหนักตามมาตรา ๗๒ ทวิ วรรคสอง จำคุก ๖ เดือน ๒๐ วัน จำเลยเคยต้องคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ ๒๑๓๑/๒๕๒๖ คดีหมายเลขแดงที่ ๒๖๔๘/๒๕๒๖ ของศาลชั้นต้น จำคุก ๑ ปี ๖ เดือน และปรับ ๕,๐๐๐ บาท โทษจำคุกรอไว้มีกำหนด ๓ ปี จำเลยกระทำความผิดในคดีนี้อีกภายในเวลา ๓ ปี จึงลงโทษซึ่งรอไว้อีก ๑ ปี ๖ เดือน รวมจำคุก ๑๒ ปี ๑ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ปรับ ๑๐๐ บาท รวมจำคุก ๑๑ ปี ๖ เดือน ๑๐ วัน และปรับ ๑๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ ริบของกลาง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗๒ ทวิ
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๗๖ เพราะต้องห้ามฏีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ และฟังว่าจำเลยมีความผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารกับพรากผู้เยาว์ และวินิจฉัยฏีกาโจทก์เกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗๒ ทวิ ว่าข้อเท็จจริงไม่ปรากฎว่าจำเลยได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือไม่ แม้ตามมาตรา ๗๒ ทวิ วรรคสอง จะเป็นบทกฎหมายที่ลงโทษบุคคลใดที่พาอาวุธปืนทั้งมีทะเบียนและไม่มีทะเบียนดังโจทก์ฏีกาก็ตามแต่ถ้าหากบุคคลนั้นได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวก็อาจทำให้การกระทำของบุคคลนั้นไม่เป็นความผิดได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว แต่กระทำการฝ่าฝืนมาตรา ๘ ทวิ วรรคสอง กล่าวคือ พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใดจึงจะเป็นความผิดตามมาตรา ๗๒ ทวิ วรรคสาม ซึ่งกรณีของจำเลยก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าว ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงรับฟังไม่ได้ว่าเป็นความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗๒ ทวิ ดังโจทก์ฎีกา การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดตามกฎหมายหรือไม่ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบ หาใช่เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องนำสืบว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดเพราะจำเลยมีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวดังโจทก์ฎีกาไม่ รูปคดีจึงลงโทษจำเลยได้แต่เพียงฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเท่านั้น แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับบทลงโทษโดยไม่กำหนดวรรคมานั้นไม่ถูกต้องและเห็นสมควรกำหนดโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมแก่รูปคดีด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๔ วรรคแรก จำคุก ๒ ปี มาตรา ๓๑๘ วรรค ๓ จำคุก ๓ ปี รวมกับโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ปรับ ๑๐๐ บาท ตามมาตรา ๓๗๖ จำคุก ๑๐ วัน รวมจำคุก ๕ ปี ๑๐ วัน ปรับ ๑๐๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.