แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์เคยนำเช็คฉบับพิพาทมาฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา แล้วขอถอนฟ้องโดยอ้างเหตุว่าฟ้องบกพร่องขอถอนเพื่อจะนำไปดำเนินคดีใหม่ เมื่อศาลอนุญาตก็ต้องถือว่าเป็นการถอนฟ้องคดีอาญาให้เสร็จไปทั้งเรื่อง โจทก์จะนำเช็คฉบับพิพาทมาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่อีกไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 36.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 1 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงปรากฏตามสำนวนคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2761/2526 ของศาลชั้นต้นว่า โจทก์เคยนำเช็คฉบับพิพาทมาฟ้องจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งให้ประทับฟ้องต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องโดยอ้างเหตุว่าเนื่องจากฟ้องของโจทก์บกพร่อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต หลังจากนั้นโจทก์จึงนำเช็คฉบับพิพาทมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อีก เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 36 บัญญัติว่าคดีอาญาซึ่งได้ถอนฟ้องไปจากศาลแล้ว จะนำมาฟ้องอีกหาได้ไม่ เว้นแต่จะเข้าอยู่ในข้อยกเว้นตาม (1) (2) และ (3) การที่โจทก์เคยฟ้องจำเลยเกี่ยวกับเช็คฉบับพิพาทมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่โจทก์ได้ถอนฟ้องคดีนั้นไปจากศาลเช่นนี้ เมื่อกรณีไม่เข้าอยู่ในข้อยกเว้น 3 ประการดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 36 แล้ว โจทก์จะนำคดีมาฟ้องจำเลยอีกหาได้ไม่ เป็นการต้องห้ามมาตรา 36 ดังกล่าว
ที่โจทก์ฎีกาว่า ในคำร้องขอถอนฟ้องมีข้อความระบุไว้ชัดแจ้งว่าโจทก์ขอถอนฟ้องเพื่อจะนำไปดำเนินคดีใหม่ ไม่ได้ถอนฟ้องเพื่อให้คดีเสร็จเด็ดขาดไปไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องคดีใหม่ เห็นว่า เมื่อได้มีการฟ้องคดีอาญาต่อศาลโดยถูกต้องแล้วแม้ตามคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์ในคดีก่อนจะอ้างเหตุว่าฟ้องบกพร่องจึงขอถอนเพื่อดำเนินการใหม่ก็ตาม แต่เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ก็ต้องถือว่าเป็นการถอนฟ้องคดีอาญาให้เสร็จไปทั้งเรื่อง จึงอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะนำมาฟ้องใหม่ไม่ได้อีกเช่นกัน
พิพากษายืน.