คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ป. รัษฎากร มาตรา 89 ทวิ ได้บัญญัติให้เรียกเงินเพิ่มภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือนของจำนวนภาษีการค้าที่ต้องชำระเพิ่ม แต่ทั้งนี้ไม่เกินจำนวนภาษีการค้าที่ต้องชำระ เป็นทางแก้ สำหรับกรณีลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ภาษีที่ค้างชำระไว้โดยเฉพาะแล้ว จะนำ ป.พ.พ. มาตรา 224 ว่าด้วยดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดมาเรียกร้องเอากับลูกหนี้ซ้ำอีกหาได้ไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระอากรขาเข้า ภาษีการค้า ภาษีบำรุงเทศบาล เงินเพิ่มและดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าอากรขาเข้าภาษีการค้าภาษีบำรุงเทศบาลและเงินเพิ่มรวม 450,085.28 บาทแก่โจทก์ ให้จำเลยชำระเงินเพิ่มอากรขาเข้าในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือนของเงินอากรที่ค้างชำระตามใบขนทั้ง 6 ฉบับ เป็นเงินเดือนละ425.85 บาท, 394.48 บาท, 30.31 บาท, 59.07 บาท, 59.07 บาทและ 59.01 บาท ตามลำดับ นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ คำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ เฉพาะค่าขึ้นศาลให้จำเลยชำระเท่าที่โจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความ 1,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 89 ตรี ได้บัญญัติไว้ว่าเบี้ยปรับและเงินเพิ่มให้ถือเป็นเงินภาษี เมื่อจำเลยยังไม่ชำระเงินดังกล่าว จำเลยย่อมตกเป็นผู้ผิดนัด โจทก์มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากหนี้เงินในระหว่างเวลาผิดนัดได้ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ด้วยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเนื่องจากเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม เป็นเงินนอกเหนือจากเงินภาษีตามที่ประมวลรัษฎากรบัยญัติไว้ให้เรียกเก็บ และทางรัฐบาลมีความมุ่งหมายที่จะให้มีผลบังคับเอาเบี้ยปรับและเงินเพิ่มจากผู้มิได้ชำระเป็นพิเศษกว่าหนี้ธรรมดาเช่นเดียวกับเงินภาษี จึงได้บัญญัติไว้ดังกล่าวแต่อย่างไรก็ดี เมื่อประมวลรัษฎากร มาตรา 89 ทวิ ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นให้เรียกภาษีเงินเพิ่ม ภาษีการค้าในอัตราร้อยละ1 ต่อเดือนของจำนวนภาษีการค้าที่ต้องชำระเพิ่ม แต่ทั้งนี้ไม่เกินจำนวนภาษีการค้าที่ต้องชำระ เช่นนี้แล้วก็แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่ากฎหมายได้บัญญัติทางแก้สำหรับกรณีลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ภาษีที่ค้างชำระไว้โดยเฉพาะแล้ว จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 224 ว่าด้วยดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดมาเรียกร้องเอากับลูกหนี้ซ้ำอีกหาได้ไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะได้รับดอกเบี้ยดังที่อุทธรณ์มาที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาไม่คิดดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ”.

Share