คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่าลูกจ้างโจทก์ได้ขับรถบรรทุกของโจทก์ออกจากห้องชั่งน้ำหนักมาจอดรอที่ไหล่ทางเพื่อออกสู่ถนนสายเลี่ยงเมือง ได้มีรถบรรทุกขับโดยจำเลยที่1ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังว่ามีรถบรรทุกของโจทก์จอดรอเพื่อออกสู่ถนนสายเลี่ยงเมืองอยู่เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้าของรถบรรทุกของโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นฟ้องที่ได้บรรยายถึงเหตุที่อ้างว่าจำเลยที่1ประมาทเลินเล่อไว้ชัดแจ้งเพียงพอที่จะให้จำเลยที่2และที่3เข้าใจได้แล้วสำหรับรายละเอียดต่างๆในขณะเกิดเหตุเป็นอย่างไรโจทก์อาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องของโจทก์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา172แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2ได้ขับรถบรรทุกของจำเลยที่ 2 ที่มีจำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันในทางการที่จ้าง ด้วยความประมาทเลินเล่อเฉี่ยวชนรถบรรทุกของโจทก์ที่ลูกจ้างโจทก์ขับออกมาจากห้องชั่งน้ำหนักมาจอดรอที่ไหล่ทางเพื่อออกสู่ถนนใหญ่ เป็นเหตุให้รถบรรทุกของโจทก์ได้รับความเสียหายคิดเป็นค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงินรวมทั้งสิ้น261,808.72 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน243,543 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ก่อนที่จำเลยที่ 1 จะยื่นคำให้การ โจทก์ยื่นคำบอกกล่าวขอถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การทำนองเดียวกันว่า ฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุเคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 196,429.73 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงิน 173,423 บาทนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลย ที่ 2 และ ที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 145,493 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราที่ศาลชั้นต้นกำหนดนับแต่วันที่10 ตุลาคม 2533 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลย ที่ 2 และ ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า ลูกจ้างโจทก์ได้ขับรถบรรทุกของโจทก์ออกจากห้องชั่งน้ำหนักมาจอดรอที่ไหล่ทางเพื่อออกสู่ถนนสายเลี่ยงเมือง (บายพาส) ได้มีรถบรรทุกคันหมายเลขทะเบียน 80-5815 ชลบุรี ขับโดยจำเลยที่ 1 ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังว่ามีรถบรรทุกของโจทก์จอดรอเพื่อออกสู่ถนนสายเลี่ยงเมืองอยู่ เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้าของรถบรรทุกของโจทก์ได้รับความเสียหาย เห็นว่า ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงเหตุที่อ้างว่าจำเลยที่ 1 ประมาทเลินเล่อไว้ชัดแจ้งเพียงพอที่จะให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 เข้าใจได้แล้วสำหรับรายละเอียดต่าง ๆ ในขณะเกิดเหตุเป็นอย่างไรโจทก์อาจนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องของโจทก์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว
พิพากษายืน

Share