คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5975/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องอุทธรณ์ของผู้คัดค้านนอกจากจะมีเนื้อหาและเหตุผลคัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นของผู้คัดค้านที่ 2 แล้ว ในคำขอท้ายอุทธรณ์ก็มีข้อความที่ผู้คัดค้านทั้งสองขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นร่วมกันมา แสดงว่าผู้คัดค้านทั้งสองร่วมอุทธรณ์มาในฉบับเดียวกันแม้ผู้คัดค้านที่ 2 ไม่ได้ระบุชื่อในหัวข้อรายการแห่งคดีเพราะพลั้งเผลอ ก็ถือได้ว่าผู้คัดค้านที่ 2อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วย

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินพิพาทโฉนดเลขที่ ๗๒๐๑ เนื้อที่ประมาณ ๓๓ ๓/๔ ตารางวา เป็นของผู้ร้องโดยการครอบครอง ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องด้วยการครอบครองตามกฎหมาย
ผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคำร้องคัดค้านว่า ที่ดินพิพาทเป็นผู้คัดค้านที่ ๒ ซึ่งซื้อจากผู้คัดค้านที่ ๑ โดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ ๗๒๐๑ เลขที่ดิน ๒๘๗หมู่ที่ ๑ ตำบลทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี จำนวน ๓๓ ๓/๔ ตารางวาเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครองปรปักษ์
ผู้คัดค้านที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยคดีให้แก่ผู้คัดค้านที่ ๒ ชอบหรือไม่ เห็นว่าคำฟ้องอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมานั้น นอกจากจะมีเนื้อหาและเหตุผลคัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นของผู้คัดค้านที่ ๒ แล้ว ในคำขอท้ายอุทธรณ์ก็มีข้อความที่ผู้คัดค้านทั้งสองขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นร่วมกันมาด้วย แสดงว่าผู้คัดค้านทั้งสองร่วมอุทธรณ์มาในฉบับเดียวกันจริง และเมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์ที่ผู้คัดค้านที่ ๒ เป็นทนายความให้ผู้คัดค้านที่ ๑ ซึ่งทำคำคู่ความร่วมกันมาตลอดตั้งแต่ศาลชั้นต้น ประกอบกับเหตุผลที่ผู้คัดค้านทั้งสองแพ้คดีด้วยกันมาแล้ว จึงไม่มีข้อสงสัยว่าผู้คัดค้านทั้งสองจะไม่ร่วมอุทธรณ์ด้วยกันอีก ข้อเท็จจริงเชื่อว่าที่ผู้คัดค้านที่ ๒ ไม่ได้ระบุชื่อในหัวข้อรายการแห่งคดีไว้เป็นการพลั้งเผลอหลงลืมซึ่งเกิดขึ้นได้ตามปกติ จะถือเอามาเป็นเหตุว่าผู้คัดค้านที่ ๒ ไม่มีเจตนาอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ได้ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยคดีให้ผู้คัดค้านที่ ๒ การที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยคดีให้ผู้คัดค้านที่ ๒ จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยคำพิพากษาหรือคำสั่งตามมาตรา ๑๔๑ ให้ครบถ้วน แต่อย่างไรก็ตามมีข้อเท็จจริงปรากฏอยู่แล้วในสำนวนเป็นการยุติและเพียงพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยคดีให้ผู้คัดค้านที่ ๒ ได้เอง จึงไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่
พิพากษาแก้เป็นว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๒๐๑ เลขที่ดิน ๒๘๗หน้าสำรวจ ๑๐๑๙ หมู่ที่ ๑ ตำบลทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี เนื้อที่๓๓ ๓/๔ ตารางวา เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share