คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องกล่าวว่าจำเลยมีอาวุธทำการปล้น แม้จำเลยรับสารภาพ แต่ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยไม่ได้ใช้กำลังทำร้ายหรือขู่เข็นว่าจะทำร้ายผู้ใด ไม่พอฟังว่าเป็นการปล้นทรัพย์.
ฟ้องฐานปล้นทรัพย์ พิจารณาได้ความว่าลักทรัพย์ ลงโทษได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกที่ยังหลบหนีอีก ๕ คนสมคบกันมีศาสตราวุธทำการปล้นทรัพย์นายมาก จำเลยรับสารภาพว่าได้ปล้นทรัพย์จริง ศาลชั้นต้นสืบเจ้าทรัพย์ปากหนึ่งได้ความว่า มีคนร้ายขึ้นบนเรือน ๕ คน ต่างมีอาวุธมีดและตะบอง จำเลยทั้ง ๓ นี้เป็นคนที่วิ่งไปมาที่พื้นดิน ได้ความเช่นนี้พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามฟ้อง ให้จำคุกคนละ ๕ ปี.
ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุกจำเลยคนละ ๓ ปี ๖ เดือน ฐานลักทรัพย์ตามกฏหมายอาญามาตรา ๒๙๕.
จำเลยและโจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์กล่าวแต่ว่า จำเลยมีอาวุธทำการปล้นทรัพย์ ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยหรือพรรคพวกได้ใช้กำลังทำร้ายหรือขู่เข็นว่าจะทำร้ายผู้ใด และทางพิจารณาก็ไม่ได้ความเช่นนั้น แม้จำเลยจะรับสารภาพก็ยังไม่พอให้ฟังว่าเป็นการปล้นทรัพย์ ส่วนฎีกาจำเลยว่าศาลจะลงโทษสถานลักทรัพย์ไม่ได้นั้น เห็นว่าการลักทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการปล้นทรัพย์ แล้วแต่ว่าจะมีอาวุธมีการใช้กำลังทำร้าย มีพรรคพวกมากน้อยเพียงใด + ศาลก็มีอำนาจลงโทษในฐานความผิดที่ถูกต้องได้ จึงพิพากษายืน.

Share