คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078-1079/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์นัดแรกซึ่งโจทก์มีหน้าที่สืบก่อนโดยวิทยุมาแจ้งให้ศาลทราบก่อนวันนัด 1 วัน ความว่าทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเพราะไม่มีรถมา มาศาลไม่ทัน ตัวโจทก์มาศาลในตอนสายวันนั้นหลังจากศาลสั่งให้โจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้ว แถลงว่ารอทนายอยู่ที่บ้าน แม้การขอเลื่อนของทนายทางวิทยุจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ก็แสดงว่าทนายและโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาหากแต่มีความจำเป็นเกิดขึ้นที่ทนายไม่อาจมาศาลได้

ย่อยาว

คดี 2 สำนวนนี้ศาลสั่งให้พิจารณาพิพากษารวมกัน คดีแรกโจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นพี่ชายนายโทนซึ่งตายไปเมื่อเดือน 9 ปี 2499 นายโทนมีนา 1 แปลงตามแผนที่ท้ายฟ้อง โจทก์เป็นทายาทควรได้รับมรดกนาแปลงนี้ จำเลยแต่งงานกับนายโทนเมื่อ 18 ปีมาแล้วแต่มิได้จดทะเบียนสมรส จึงเป็นภริยาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิรับมรดกนายโทน แต่จำเลยไปร้องต่ออำเภอขอรับมรดกที่แปลงนี้โจทก์คัดค้านไว้แล้ว ขอให้แสดงว่านาพิพาทเป็นมรดกนายโทนตกทอดแก่โจทก์ผู้เป็นทายาท ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง

จำเลยให้การว่าได้สมรสกับนายโทนเมื่อปี 2481 อยู่กินกันตลอดมาจนนายโทนตายมีบุตรด้วยกัน 6 คน เมื่อ 20 ม.ค. 82 จำเลยกับนายโทนซื้อนานี้ไว้จากนางอิ้มแล้วครอบครองร่วมกันตลอดมาเพิ่งขายให้นายแย้มเมื่อ มี.ค. 99 ก่อนนายโทนตาย ที่พิพาทจึงไม่ใช่มรดกนายโทน

คดีหลังโจทก์ฟ้องว่าที่ดินตามแผนที่ท้ายฟ้องเป็นของโจทก์ทั้งสอง ได้ให้นายโทนอาศัยทำกินและครอบครองแทน เมื่อนายโทนตายแล้วจำเลยไปร้องต่ออำเภอขอรับมรดกนาแปลงนี้ โจทก์คัดค้านไว้แล้วขอให้แสดงว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง

จำเลยให้การว่า นาพิพาทคดีนี้เป็นของนายโทนกับจำเลยไม่ใช่ของโจทก์ นายโทนไม่ได้ครอบครองแทนโจทก์

ศาลนัดสืบพยานโจทก์ก่อนในวันที่ 16 ก.พ. 2500 ถึงวันนัด โจทก์ทนายและพยานไม่มาศาล ๆ ได้รับใบรับวิทยุในราชการตำรวจความว่าทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเพราะไม่มีรถมา มาศาลไม่ทัน จำเลยและทนายแถลงว่าไม่ควรให้เลื่อน ขอให้สั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา และให้สืบพยานจำเลยฝ่ายเดียว

ศาลกาฬสินธุ์เห็นว่า การขอเลื่อนทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายและเหตุที่ขอไม่พอที่จะให้เลื่อน ทั้งแสดงว่าโจทก์ไม่เอาใจใส่ในการดำเนินคดีจึงไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี และเห็นว่าโจทก์จงใจขาดนัดพิจารณา ให้พิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวโดยนัดสืบพยานจำเลยและให้แจ้งวันนัดให้โจทก์ทราบ

ในวันเดียวกันนั้นเวลา 11.30 น. นายสิงห์โจทก์มาศาลยื่นคำแถลงว่า รอทนายอยู่ที่บ้านได้ทราบว่าทนายได้วิทยุมาทางศาลขอเลื่อนคดีศาลสั่งว่า รวม ต่อมา 6 มี.ค. 2500 โจทก์ยื่นคำแถลงโต้แย้งคำสั่งศาลว่าการที่ขอเลื่อนเพราะไม่มีรถยนต์ที่จะโดยสารมาให้ทันเป็นการขอเลื่อนครั้งแรก ยังฟังไม่ได้ว่าจงใจขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นสั่งคำแถลงว่ารวม

ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยฝ่ายเดียวแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์ขอให้เลื่อนคดีไปตามขอ และพยานจำเลยไม่น่าเชื่อ ขอให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ หรือพิพากษาให้นาพิพาทตกเป็นของโจทก์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ไม่ได้จงใจขาดนัดพิจารณา หากเป็นความจำเป็นที่ทนายโจทก์ไม่สามารถมาศาลตามกำหนด สมควรให้พิจารณาใหม่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาคดีนี้ใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 แล้วพิพากษาค่าฤชาธรรมเนียมค่าทนายชั้นอุทธรณ์เป็นพับ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ 1 วัน ทนายโจทก์ได้วิทยุมาขอเลื่อนคดีโดยบอกว่ามาศาลไม่ทันตามกำหนดเพราะรถไม่มีโดยสารในวันนัด เมื่อศาลสั่งว่าโจทก์ขาดนัดแล้ว ตัวโจทก์มาศาลแถลงเหตุที่มาศาลล่าช้ากว่ากำหนดให้ศาลทราบ แม้การขอเลื่อนทางวิทยุจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็แสดงว่าทนายและโจทก์มิได้จงใจจะขาดนัด หากแต่มีความจำเป็นเกิดขึ้นที่ทนายไม่อาจมาศาลได้จึงเห็นว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับไป

Share