คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การที่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ในคดีล้มละลายซื้อที่ดินพิพาทมาแล้วโอนขายให้แก่ผู้คัดค้านไปในวันเดียวกัน และปรากฏว่ามีเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เป็นจำนวน 670,000 บาทเศษแต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวบรวมเงินได้เพียง 20,000 บาทเศษเท่านั้นการโอนทรัพย์สินดังกล่าวจึงเห็นได้ว่าจำเลยผู้ล้มละลายได้กระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่น ศาลเพิกถอนการโอนที่พิพาทรายนี้ได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการโอนที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ในคดีล้มละลายโอนขายให้แก่ผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนผู้คัดค้านฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงตามที่ศาลล่างทั้งสองฟังมารับฟังเป็นยุติได้ว่า จำเลยถูกฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลายต่อศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 7กุมภาพันธ์ 2504 ศาลแพ่งมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเมื่อวันที่ 26กันยายน 2504 และพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายเมื่อวันที่ 30 มกราคม2506 ต่อมาวันที่ 12 กรกฎาคม 2514 ซึ่งจำเลยยังเป็นบุคคลล้มละลายอยู่จำเลยได้ซื้อที่ดินโฉนดพิพาทจากนายธรรมนูญ นิรันดร แล้วโอนขายให้ผู้คัดค้านไปในวันเดียวกันกับที่จำเลยซื้อมาเป็นเงิน 15,000 บาท เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อในหน้าโฉนดจากนายธรรมนูญ นิรันดรผู้ขายเป็นชื่อจำเลยและจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อจำเลยมาเป็นผู้คัดค้านเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดพิพาท ปรากฏตามเอกสารหมาย ร.6 และ ร.7 ในคดีล้มละลายที่จำเลยถูกฟ้องนั้น จำเลยมีเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เป็นจำนวนเงิน670,000 บาทเศษ แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวบรวมเงินได้ประมาณ 20,000บาทเศษเท่านั้น

ผู้คัดค้านฎีกาว่าผู้คัดค้านและจำเลยมิได้มีเจตนามุ่งหมายจะให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้อื่นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 115แต่อย่างใด ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ตามข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังมาได้ความว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินที่จำเลยได้ซื้อมาจากนายธรรมนูญ นิรันดร ในขณะที่จำเลยยังเป็นบุคคลล้มละลายอยู่ ที่ดินพิพาทจึงเป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลายอันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้ตามมาตรา 109(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ซึ่งตามมาตรา 23 บัญญัติว่าลูกหนี้ต้องส่งมอบให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และมาตรา 24 บัญญัติห้ามมิให้ลูกหนี้กระทำการใด ๆเกี่ยวกับทรัพย์สินเว้นแต่จะได้กระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาลเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้จัดการทรัพย์หรือที่ประชุมเจ้าหนี้ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย การที่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ในคดีล้มละลายซื้อที่ดินที่พิพาทมาแล้วโอนขายให้แก่ผู้คัดค้านไปในวันเดียวกัน จึงเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งมาตราดังกล่าวทั้งในคดีล้มละลายที่จำเลยถูกฟ้อง ปรากฏว่ามีเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เป็นจำนวน 670,000 บาทเศษ แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวบรวมเงินได้เพียง 20,000 บาทเศษเท่านั้น การโอนทรัพย์สินดังกล่าวจึงเห็นได้ว่าจำเลยผู้ล้มละลายได้กระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีอำนาจขอให้ศาลเพิกถอนการโอนทรัพย์รายนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 115”

พิพากษายืน

Share