คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5955/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามคำฟ้องของโจทก์ระบุเพียงยศของจำเลย แม้จะระบุด้วยว่าจำเลยมีอาชีพรับราชการ แต่ก็ยังไม่ปรากฏชัดแจ้งจากคำฟ้องว่า จำเลยรับราชการเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการเพราะจำเลยมีสิทธิที่จะใช้ยศนำหน้าชื่อของจำเลยได้ แม้จะออกจากราชการหรือโอนไปรับราชการในสังกัดอื่นซึ่งมิใช่เป็นนายทหารประจำการ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งประทับรับฟ้องซึ่งถือว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาแล้ว ความจึงปรากฏจากคำแถลงของโจทก์ว่าจำเลยยังรับราชการทหารอยู่ จึงเป็นการที่ปรากฏตามทางพิจารณาในภายหลังว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร ศาลพลเรือนย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาต่อไปได้ ศาลชั้นต้นชอบที่จะพิจารณาพิพากษาต่อไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว คดีมีมูล ให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณาต่อมาในวันนัดสอบคำให้การจำเลยและสืบพยานโจทก์ ศาลสอบโจทก์และโจทก์แถลงว่าจำเลยรับราชการทหารอยู่ ศาลชั้นต้นสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิมและจำหน่ายคดี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำฟ้องของโจทก์ระบุเพียงยศของจำเลยแม้จะระบุไว้ด้วยว่าจำเลยมีอาชีพรับราชการ แต่ก็ยังไม่ปรากฏชัดแจ้งจากคำฟ้องว่าจำเลยรับราชการเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการ เพราะจำเลยมีสิทธิที่จะใช้ยศนำหน้าชื่อของจำเลยได้แม้จะออกจากราชการหรือโอนไปรับราชการในสังกัดอื่นซึ่งมิใช่ เป็นนายทหารประจำการ ครั้นเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสังประทับรับฟ้องซึ่งถือว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาแล้ว ความจึงปรากฏจากคำแถลงของโจทก์ว่าจำเลยยังรับราชการทหารอยู่ จึงเป็นการที่ปรากฏตามทางพิจารณาในภายหลังว่าเป็นคดีที่อยู่อำนาจของศาลทหาร ศาลพลเรือนย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาต่อไปได้ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๑๕ วรรคสอง ซึ่งเมื่อคดีได้ล่วงเลยมาเช่นนี้ ชอบที่ศาลชั้นต้นจะพิจารณาพิพากษาต่อไปคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาและมีคำสั่งหรือคำพิพากษาต่อไปตามรูปคดี

Share