แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเป็นตัวแทนของทั้งสองฝ่ายย่อมเป็นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 805
นายบ่อนชนโครับเงินเดิมพันจากคู่พนันทั้งสองฝ่ายไว้ เพื่อมอบเงินทั้งหมดให้แก่ฝ่ายชนะพนันนั้น ย่อมได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนของเจ้าของเงินทั้งสองฝ่าย ตราบใดที่ยังมิได้จ่ายเงินไปตามที่ได้รับมอบหมายไว้ผู้วางเงินเดิมพันมีสิทธิที่จะถอนอำนาจที่ได้มอบหมายนั้น คือสั่งให้งดการจ่ายเงินของตนและขอคืนไปได้ และในกรณีเช่นนี้ถือว่านายบ่อนมิใช่คู่พนันขันต่อกับผู้วางเงินเดิมพัน แต่หากเป็นคนกลางหรือเป็นตัวแทนของคู่พนันเท่านั้นจึงไม่เข้าลักษณะ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 853 ผู้วางเดิมพันจึงมีอำนาจฟ้องเรียกเงินเดิมพันที่ตนมอบหมายไว้ คืนจากนายบ่อนได้ในเมื่อได้บอกกล่าวขอคืนก่อนนายบ่อนจ่ายเงินนั้นให้คู่พนันอีกฝ่ายหนึ่งไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นนายสนามบ่อนชนโค ซึ่งเทศบาลอำเภอเมืองตรังจัดให้มีขึ้น จำเลยทุกคนมีหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินชี้ขาดความแพ้ชนะในการชนโคตามข้อบังคับของบ่อนที่ได้ตราขึ้นไว้โจทก์นำโคของโจทก์เข้าชนพนันกับโคของนายสังข์ ณ สนามที่จำเลยจัดให้มีขึ้นเป็นเงินเดิมพันฝ่ายละ 2,000 บาท ได้มอบหมายเงินเดิมพันให้จำเลยยึดถือไว้ เพื่อจ่ายให้กับเจ้าของโคฝ่ายชนะในที่สุดจำเลยทุกคนได้แกล้งตัดสินให้โคของโจทก์แพ้ ทั้ง ๆ ที่โคทั้งสองชนไม่แพ้ชนะกันตามข้อบังคับของบ่อน โจทก์ได้คัดค้านไม่ยินยอมตามคำชี้ขาดและขอรับเงินคืน จำเลยไม่ยอมคืน โจทก์ได้ร้องอายัดเงินเดิมพันไว้มิให้จำเลยจ่ายให้กับฝ่ายนายสังข์ จำเลยยินยอมและได้ทำเป็นหนังสือรับรองว่าจะไม่จ่ายเงินรายนี้ให้แก่ฝ่ายใดจนกว่าจะได้ว่ากล่าวกันเป็นที่เรียบร้อยภายใน 15 วัน แต่รุ่งขึ้นจำเลยที่ 2 กลับประกาศให้ฝ่ายนายสังข์ไปรับเงินเดิมพันรวม 4,000 บาทจากจำเลย จึงขอให้ศาลห้ามมิให้จำเลยจ่ายเงินเดิมพันให้นายสังข์และให้จำเลยคืนเงินเดิมพัน 2,000 บาทให้โจทก์ พร้อมทั้งค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์ 2,000 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยรับเงินเดิมพันจากคู่พนันทั้งสองฝ่ายเช่นนี้ ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยเป็นตัวแทนของเจ้าของเงินทั้งสองฝ่ายเพื่อมอบเงินทั้งหมดนั้นให้แก่ฝ่ายชนะพนัน การเป็นตัวแทนของทั้งสองฝ่ายนั้น ย่อมเป็นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 805 ฉะนั้นตราบใดที่จำเลยยังมิได้จ่ายเงินไปตามที่ได้รับมอบหมายไว้ โจทก์ซึ่งเป็นตัวการก็มีสิทธิที่จะถอนอำนาจที่ได้มอบหมายนั้น คือสั่งงดการจ่ายเงินของตนและขอคืนได้
ข้อที่จำเลยคัดค้านว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องการพนันขันต่อนั้น ก็เห็นว่าจำเลยมิใช่คู่พนันขันต่อกับโจทก์ แต่หากเป็นคนกลางหรือเป็นตัวแทนของโจทก์เท่านั้นจึงไม่เข้าลักษณะกฎหมายที่จำเลยอ้าง
ส่วนที่จำเลยโต้เถียงว่าในชั้นนี้ว่าแม้โจทก์จะเป็นผู้วางเงินเดิมพันเอง แต่ไม่ใช่เงินของโจทก์ทั้งหมด คนอื่นเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกทั้งหมดนั้น จำเลยตั้งข้อต่อสู้เป็นประเด็นแต่เพียงว่าโจทก์เป็นผู้วางเงินนั้นหรือมิใช่เท่านั้น เมื่อฟังว่าโจทก์เป็นผู้วางแล้ว ใครจะมีส่วนร่วมด้วยอีกก็ไม่สำคัญ เป็นเรื่องนอกประเด็น ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืน