แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเป็นคดีอาญาต่อศาลนั้นถ้าไม่ได้ความว่าโจทก์ฟ้องโดยไม่สุจริตหรือแกล้งฟ้องแล้วการกระทำของโจทก์หาใช่เป็นการกระทำละเมิดต่อจำเลยทางแพ่งไม่จำเลยจะฟ้องขอให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายในการต่อสู้คดีหรือค่าเสียชื่อเสียงหรือค่าใช้จ่ายอย่างใดๆ ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาว่าสมคบกับผู้มีชื่อ ทำการยักยอกลายมือชื่อสามีจำเลยและหาว่าโจทก์ปลอมหนังสือ ซึ่งจำเลยทราบดีว่าไม่มีมูลความจริงทำให้โจทก์ต้องเสียค่าจ้างทนายสู้คดี 5,000 บาท และเสียค่าเสียหายอื่น ๆ อีกรวมทั้งสิ้น 21,000 บาท ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ซึ่งเป็นประเด็นสู่ศาลฎีกาว่าการที่จำเลยฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาก็เพื่อคุ้มครองสิทธิของจำเลยโดยสุจริต เป็นการใช้สิทธิทางศาลไม่เป็นการละเมิดเรียกค่าเสียหายไม่ได้
โจทก์จำเลยแถลงต้องกันว่าในเรื่องละเมิดขอให้ศาลถือตามฟ้องคำให้การในคดีนี้และข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่ 1952/2496 และคดีแพ่งที่ 1842/2496 คู่ความไม่สืบพยานในประเด็นข้อนี้ต่อไป
จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายเบื้องต้นตาม วิ.แพ่ง ม. 24ว่าการกระทำของจำเลยเป็นละเมิดหรือไม่
ศาลชั้นต้นเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นละเมิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาดังกล่าวแล้วนั้น เป็นการใช้สิทธิทางศาล ตามธรรมดาย่อมไม่ใช่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย และไม่เป็นการใช้สิทธิอันมีแต่จะเกิดความเสียหายและข้อเท็จจริงในคดีนี้หาพอที่จะเห็นว่าจำเลยฟ้องโจทก์โดยไม่สุจริตหรือแกล้งฟ้องโจทก์ไม่ จึงไม่ใช่เป็นการละเมิด พิพากษายืน