คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บาดแผลถูกฟันที่ก้านคอหลังแถบซ้ายลึกตัดเนื้อกล้ามในการเย็บแผลต้องตัดเนื้อกล้ามที่กะรุ่งกะริ่งทิ้งเสียบ้าง เมื่อหายแล้วจึงทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ดึ จะเอี้ยวคอไปทางซ้ายไม่ได้ต้องหันทั้งตัว ส่วนทางขวาเอี้ยไปได้นิดหน่อย การเอี้ยวไม่ได้นี้ จะพิการไปตลอดชีวิต ดังนี้ ได้ชื่อว่าบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา 256 ข้อ 7
ศาลชั้นต้นลงโทษ+ ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุก 3 ปี ตามมาตรา 256 เป็นแก้มาก +ข้อเท็จจริง

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบังอาจใช้มีดดาบทำร้ายร่างกายนายเสนาะ จันโป๊ะถึงบาดเจ็บสาหัส โดยทำให้เป็นคนพิการไปตลอดชีวิต ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๖(๗)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๔ จำคุก ๑ ปี ลดโทษฐานปราณีเสีย ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๘ เดือน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าบาดแผลถึงสาหัส พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๕๖ จำคุก ๓ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า บาดแผลของผู้เสียหายเป็นแผลถูกฟันที่ก้านคอด้านหลังแถบซ้าย ลึกตัดเนื้อกล้าม มีเนื้อกล้ามขาดกะรุ่งกะริ่ง ในการเย็บบาดแผลจึงต้องตัดกล้ามเนื้อที่กะรุ่งกะริ่งนี้ทิ้งเสียบ้าง เมื่อแผลหายแล้ว จึงทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ตึง จะเอี้ยวคอไปทางซ้ายไม่ได้ ต้องหันทั้งตัว ส่วนทางขวาเอี้ยวได้นิดหน่อย การเอี้ยวไม่ได้นี้จะพิการไปตลอดชีวิต เพราะกล้ามเนื้อที่คอไม่ค่อยหย่อนเหมือนกล้ามเนื้อส่วนอื่นของร่างกาย นอกจากนี้ยังปรากฎว่า เมื่อตัวผู้บาดเจ็บมาเบิกความที่ศาลซึ่งห่างจากวันเกิดเหตุถึง ๗ เดือนเศษ ผู้บาดเจ็บก็ยังเอี้ยวคอไม่ได้อย่างปกติ ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นบาดเจ็บถึงสาหัสตามมาตรา ๒๕๖ ข้อ ๗ แล้ง
คงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share