แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกู้ยืมเงินกว่า 50 บาทนั้นไปจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ มิเช่นนั้นศาลไม่วินิจฉัยให้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ แต่โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือว่าจำเลย+เงิน มีแต่หลักฐานจำเลยเงินจากผู้อื่นดังนี้ ไม่มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า อื่นนั้นเป็นตัวแทนโจทก์หรือไม่
ย่อยาว
ได้ความว่าเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๔๗๔ โจทก์ได้ทำสัญญากับ ย. มีข้อความว่า ย.เป็นผู้ทำการแทนตนเองและหัวหน้าชาวนากู้เงินไปจากบริษัทโจทก์ โดยนำไปให้ชาวนากู้อีกต่อหนึ่ง จำเลยเป็นผู้หนึ่งที่กู้เงินไปจาก ย.โดยมีสัญญาลงวันที่ ๒๖ สิงห์ ๒๔๗๔ ทำขึ้นระหว่าง ย.กับ จำเลย ต่อมาจำเลยไม่ยอมใช้เงินให้โจทก์ ๆ จึงฟ้องคดีนี้ขึ้น
จำเลยให้การตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ว่าตามเอกสารที่โจทก์อ้างได้ความว่าจำเลยมิได้เป้นคู่สัญญา โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และเมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินไปตามประมวลแพ่งฯ ม.๖๕๓ จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงต่อศาล โจทก์ก็หามีไม่ ตามเอาสารลงวันที่ ๒๖ สิงห์ ๒๔๗๓ นั้นก็เป็นสัญญาระหว่าง ย.กับจำเลย และเอกสารลงวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๔๗๔ ก็เป็นสัญญาระหว่างโจทก์กับ ย.เหล่านี้ไม่แสดงให้เห็นว่าจำเลยได้กู้เงินจากโจทก์ส่วนประเด็นที่ว่า ย.จะเป็นตัวแทนโจทก์ให้จำเลยกู้เงินไปนั้นหรือไม่ เห็นว่าเป็นเรื่องนอกประเด็น ไม่ต้องวินิจฉัย พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์