คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2324/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลูกจ้างขับรถของจำเลยขับรถยนต์ของจำเลยชนรถยนต์ของโจทก์ซึ่งใช้เป็นรถรับจ้างเสียหายใช้การไม่ได้ ค่าเสียหายเนื่องจากขาดรายได้เพราะใช้รถยนต์ของโจทก์รับจ้างตามปกติไม่ได้ เป็นผลโดยตรงจากความประมาทของลูกจ้างจำเลยเป็นค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดโจทก์ฟ้องเรียกร้องให้จำเลยชดใช้รถยนต์ใหม่แล้วยังมีสิทธิเรียกร้องเอาค่าที่โจทก์ขาดรายได้ดังกล่าวได้อีกด้วย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า หลังจากชนกันแล้วรถยนต์โจทก์เสียหายใช้การไม่ได้ ขอคิดค่าเสียหายเท่าราคาซื้อ เป็นการชัดแจ้งพอที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ว่า รถโจทก์เสียหายมากจนใช้การไม่ได้มิใช่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม ไม่จำต้องบรรยายถึงลักษณะความเสียหายของรถโจทก์อีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน อด.02775 ซึ่งใช้เป็นรถแท็กซี่รับจ้าง มีนายทองหล่อ โพธิอ่อน เป็นคนขับ

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2511 นายประเสริฐลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์ดั๊มในกิจการของจำเลยด้วยความประมาทชนรถยนต์โจทก์เสียหายใช้การไม่ได้ ขอคิดค่าเสียหายเท่าราคาที่ซื้อมา จำนวน 64,000บาท ปกติรถของโจทก์ใช้วิ่งรับจ้างมีรายได้สุทธิวันละ 200 บาท ขอคิดค่าเสียหายเพียง 3 เดือน เป็นเงิน 18,000 บาท ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยชำระเงิน 82,000 บาท กับดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ

จำเลยให้การว่าเหตุที่เกิดขึ้นมิใช่เนื่องจากการขับขี่โดยประมาทของนายประเสริฐผู้ขับขี่รถยนต์ของจำเลย แต่เป็นความประมาทของคนขับรถของโจทก์ความเสียหายของรถยนต์โจทก์มีเล็กน้อย ซ่อมแซมไม่เกิน 5,000 บาท และสามารถใช้ได้ดีอย่างเดิม ฟ้องโจทก์ที่เรียกค่าเสียหายเคลือบคลุม

โจทก์มีรายได้จากรถยนต์ของโจทก์เพียงวันละ 80 บาท โจทก์ปล่อยเวลาล่วงเลยไม่จัดซ่อมแซมรถ จะเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากจำเลยไม่ได้เพราะรถของโจทก์ซ่อมให้อยู่ในสภาพเดิมไม่เกิน 15 วันก็เสร็จ และใช้หารายได้เช่นเมื่อยังไม่เกิดความเสียหายได้ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิด พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 62,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์เพียง 56,000 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์เรียกร้องให้จำเลยชดใช้ราคารถแล้วไม่ควรได้ค่าขาดรายได้ที่มิได้ใช้รถยนต์รับจ้างอีกนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์มีรายได้จากรถของโจทก์ซึ่งใช้ขับเป็นแท๊กซี่รับจ้างเมื่อลูกจ้างของจำเลยประมาทขับรถชนรถโจทก์เสียหายใช้การไม่ได้ ทำให้โจทก์ขาดรายได้อันเป็นผลโดยตรงจากความประมาท จึงเป็นค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิด

ข้อที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เพราะไม่บรรยายถึงลักษณะความเสียหายของรถโจทก์ จนไม่อาจซ่อมแซมได้นั้น พิเคราะห์แล้วโจทก์บรรยายฟ้องถึงความเสียหายว่ารถยนต์เสียหายใช้การไม่ได้ขอคิดค่าเสียหายเท่าราคาซื้อ เป็นการชัดแจ้งพอที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ว่ารถโจทก์เสียหายมากจนใช้การไม่ได้ จึงมิใช่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม

พิพากษายืน

Share