คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญามีข้อความตกลงจะโอนพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาลซึ่งมีกฎหมายกำหนดให้ไปลงบัญชีโอนที่ธนาคารนั้น เป็นสัญญาที่ใช้ได้ ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน แต่การโอนพันธบัตรนั้น จะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้ไปลงบัญชีการโอนที่ธนาคารแล้ว

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ตกลงเลิกไม่ซื้อที่ดินของจำเลยโดยมีข้อสัญญาว่า จำเลยจะต้องโอนพันธบัตรออมทรัพย์สองหมื่นบาทให้โจทก์เป็นการตอบแทน จำเลยไม่โอนให้ ขอให้ศาลบังคับ

จำเลยต่อสู้ข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาและตัดฟ้องว่า ข้อสัญญาที่มีการโอนพันธบัตรนั้นขัดต่อความสงบเรียบร้อย ทั้งทำไม่ถูกแบบเป็นโมฆะ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี

จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลชั้นต้นสั่งรับขึ้นมาสู่ศาลฎีกามีข้ออ้างว่าพันธบัตรออมทรัพย์ในภาวะคับขันนั้นเป็นกฎหมายพิเศษ บัญญัติขึ้นเพื่อประสงค์ต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน จึงบังคับไว้โดยเฉพาะว่าเมื่อบุคคลใดจะโอนกรรมสิทธิ์พันธบัตรออมทรัพย์ ต้องไปลงบัญชีการโอนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงจะสมบูรณ์ ฉะนั้นจะไปทำสัญญาใด ๆ นอกจากบทบัญญัตินี้ สัญญานั้นก็ใช้ไม่ได้ ศาลฎีกาเห็นว่าการที่คู่ความทำสัญญาตกลงการโอนกรรมสิทธิ์พันธบัตรออมทรัพย์กันนั้น หาเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชกำหนดกฎหมายหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อย ฯลฯ อย่างใดไม่ เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมายฟ้องร้องขอให้ศาลบังคับได้ การที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องไปลงบัญชีการโอนที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็เป็นข้อบัญญัติให้การโอนเป็นผลสมบูรณ์ขึ้นเท่านั้น การที่คู่ความยังไม่ได้ไปลงบัญชีดังกล่าว หาทำให้ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะไปไม่ จึงพิพากษายืนตาม

Share