คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญาศาลประทับฟ้องแล้ว เมื่อโจทก์จำเลยมาต่อหน้าศาล ศาลจะสั่งงดการพิจารณา แล้ววินิจฉัยชี้ขาดคดีเสียทีเดียว โดยมิได้ถามคำให้การจำเลย หรือหาทนายให้จำเลยเสียก่อนนั้น เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณา

ย่อยาว

คดีนี้จำเลยต้องหาว่าขายเกลือเกินกว่าราคาตามประกาศของคณะกรมการจังหวัด ศาลชั้นต้นสั่งประทับฟ้อง และเมื่อโจทก์จำเลยมาต่อหน้าศาล ๆ สอบโจทก์บางประการแล้วสั่งว่า คดีมีข้อที่จะต้องวินิจฉัยก่อนการดำเนินการพิจารณาต่อไป ให้งดสืบพยานไว้ แล้วพิพากษาว่า ประกาศของพนักงานออกตามพระราชกฤษฎีกาควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ นั้นสิ้นผลในระหว่างพิจารณา ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นชอบตามคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ทำการพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ศาลจะยกฟ้องของโจทก์ได้ในตอนก่อนประทับฟ้องตามมาตรา 161, 162, 167, 168, 169 ตอนหนึ่ง และเมื่อได้ทำการพิจารณาแล้วโดยจะสั่งงดพยานหรืองดทำการอะไรในระหว่างพิจารณานั้นหรือไม่อีกตอนหนึ่ง ตามมาตรา 172, 173 และ 174 วรรค 4 แต่เมื่อศาลได้สั่งประทับฟ้องแล้ว และจำเลยมาอยู่ต่อหน้าศาลแล้ว ศาลควรดำเนินการพิจารณาถามคำให้การจำเลยไปการที่พิพากษายกฟ้องเสียในตอนนี้โดยไม่ถามจำเลยในเรื่องทนาย(คดีนี้โทษเกินกว่า 10 ปี) และไม่ถามคำให้การจำเลยนั้นจึงเป็นการที่ที่มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย ศาลควรจะสั่งงดการอันใดได้ต่อเมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาตามความในมาตรา 174 วรรค 4 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share