คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588-593/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์หาจำต้องผูกมัดตามคำสั่งรับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นไม่
การวางทรัพย์ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 330,333, นั้นเป็นเรื่องการปลดเปลี้องให้พ้นความรับผิดในการชำระหนี้ ส่วนเรื่องลูกหนี้ได้ผิดนัดขำระหนี้แล้วหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ย่อยาว

คดีเหล่านี้คงขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเพียง ๖ คดี โจทก์ฟ้องขับไล่ ศาลชั้นต้นรวมพิจารณา มีประเด็นว่า (๑) สถานที่เช่าเป็นเคหะหรือไม่ กับ (๒) จำเลยผิดนัดชำระค่าเช่าหรือไม่ ศาลชั้นต้นเห็นว่าห้องเช่าทุกรายเป็นเคหะ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ และจำเลยไม่ผิดนัด พิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่า ส่วนคำขอื่นให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อ ก.ม.
ศาลฎีกาเห็นว่าปัญหาข้อ ก.ม.ชั้นศาลฎีกาคงมีว่า
(๑) เมื่อศาลชั้นต้นสั่งฟ้องอุทธรณ์โจทก์ว่าเป็นข้อ ก.ม. และข้อเท็จจริงปะปนกัน ศาลอุทธรณ์จะต้องถือตามคำสั่งนั้นหรือไม่
(๒) ถ้าจำเลยไม่ดำเนินการตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๓๓๑ และ ๓๓๓ ว่าด้วยวิธีวางทรัพย์แล้ว จำเลยต้องตกอยู่ในฐานะผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าหรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่าในปัญหาข้อ (๑) ศาลอุทธรณ์หาจำต้องผูกมัดโดยคำสั่งรับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นไม่. ส่วนข้อ (๒) นั้นการวางทรัพย์เป็นเรื่องการปลดเปลี้องให้พ้นความรับผิดในการชำระหนี้ ส่วนเรื่องที่ว่าลูกหนี้ได้ผิดนัดชำระหนี้แล้วหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
จึงพิพากษายืน

Share