คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5870/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนีได้บังอาจร่วมกันเล่นการพนันรัสเซี่ยนพูล(ผีลาย) ซึ่งเป็นการพนันตามบัญชี ก.อันดับที่ 18 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้มีพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้ ซึ่งประเภทของการพนันที่โจทก์ระบุมาในฟ้องไม่ใช่บิลเลียดรู หรือตีผี ดังที่ระบุไว้ในบัญชี ก. อันดับที่ 18 ดังกล่าว การกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวในฟ้อง จึงมิใช่การกระทำที่พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478บัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ ดังนั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ และศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าทรัพย์สินของกลางเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นการพนันให้ริบก็ตาม คำพิพากษาดังกล่าวก็ไม่ผูกพันผู้ร้อง และกรณีเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นอ้าง ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เมื่อการกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวในฟ้องมิใช่การกระทำที่เป็นความผิด ทรัพย์สินของกลางที่เจ้าพนักงานยึดซึ่งผู้ร้องขอคืนจึงมิใช่อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นการพนันที่มาตรา 10วรรค 2 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 บัญญัติให้ศาลมีอำนาจริบได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ริบอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นการพนันและทรัพย์สินที่ยึดได้จากวงพนันของกลางและจ่ายสินบนนำจับ
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนของกลางที่ริบ
โจทก์ยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว สั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478มาตรา 4 วรรคแรก บัญญัติว่า “ห้ามมิให้อนุญาติจัดให้มี หรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นอันระบุไว้ในบัญชี ก.ท้ายพระราชบัญญัตินี้ หรือการเล่นซึ่งมีลักษณะคล้ายกัน หรือการเล่นอันร้ายแรงอื่นใดซึ่งรัฐมนตรีเจ้าหน้าที่ได้ออกกฎกระทรวงระบุเพิ่มเติมห้ามไว้ แต่เมื่อรัฐบาลพิจารณาเห็นว่า ณ สถานที่ใดสมควรจะอนุญาตภายใต้บังคับเงื่อนไขใด ๆ ให้มีการเล่นชนิดใด ก็อนุญาตได้โดยออกพระราชกฤษฎีกา” และบัญชี ก.ท้ายพระราชบัญญัติดังกล่าวระบุประเภทของการพนันในอันดับที่ 18 ว่า “บิลเลียดรู ตีผี”แต่คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนีได้บังอาจร่วมกันเล่นการพนันรัสเชี่ยนพูล (ผีลาย) ซึ่งเป็นการพนันตามบัญชี ก.อันดับที่ 18 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้มีพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้ ซึ่งประเภทของการพนันที่โจทก์ระบุมาในฟ้องไม่ใช่บิลเลียดรู หรือตีผีดังที่ระบุไว้ในบัญชี ก. อันดับที่ 18 ดังกล่าว การกระทำของจำเลยทั้งสี่ที่โจทก์กล่าวในฟ้อง จึงมิใช่การกระทำที่พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 บัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ ดังนั้นแม้จำเลยทั้งสี่จะให้การรับสารภาพ และศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่า ทรัพย์สินของกลางเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นการพนันให้ริบก็ตาม คำพิพากษาดังกล่าวก็ไม่มีผลผูกพันผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมิได้มีโอกาสต่อสู้หรือโต้แย้งข้อตกลงของโจทก์ที่กล่าวหาจำเลยทั้งสี่ด้วย และปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นอ้าง ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อการกระทำของจำเลยทั้งสี่ที่โจทก์กล่าวในฟ้อง มิใช่การกระทำที่เป็นความผิดตามบัญชี ก. อันดับที่ 18 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478ทรัพย์สินของกลางที่เจ้าพนักงานยึดซึ่งผู้ร้องขอคืนจึงมิใช่เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นการพนันตามบัญชี ก. อันดับที่ 18ท้ายพระราชบัญญัติดังกล่าวที่มาตรา 10 วรรค 2 บัญญัติให้ศาลมีอำนาจริบได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่
พิพากษากลับ ให้คืนโต๊ะบิลเลียด ไม้คิว ลูกบิลเลียดของกลางแก่ผู้ร้อง.

Share