แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาซื้อขายเยื่อใยสั้นฟอกขาวซัลเฟตชานอ้อย ข้อ 1 ข้อ 2และข้อ 4 ได้ระบุไว้ชัดแจ้งว่า ผู้ซื้อตกลงซื้อและผู้ขายตกลงขายสินค้าดังกล่าวมีรายการคุณภาพตามสัญญาข้อ 1.1  โดยผู้ขายรับรองว่าเยื่อใยสั้นฟอกขาวซัลเฟตชานอ้อยที่ขายให้ผู้ซื้อมีคุณภาพไม่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ และเมื่อทำการตรวจสอบต้องมีคุณภาพไม่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ด้วย  การตรวจสอบจะต้องให้ผู้ตรวจสอบในต่างประเทศทำการตรวจสอบและออกใบรับรองให้เป็นไปตามที่ตกลงซื้อขายกันเสียก่อนจึงจะส่งลงเรือได้ และผู้ซื้อจะให้สถาบันตรวจสอบวิเคราะห์ของทางราชการทำการตรวจสอบหรือวิเคราะห์คุณภาพ  โดยให้ถือว่าผลการตรวจสอบหรือวิเคราะห์คุณภาพของสถาบันนี้เป็นที่สุด ถ้าเยื่อใยสั้นฟอกขาวซัลเฟตชานอ้อยที่วิเคราะห์แล้วไม่เป็นไปตามรายการคุณภาพตามสัญญาข้อ 1.1 ผู้ซื้อจะรับไว้ทั้งหมดหรือไม่รับทั้งหมดหรือจะรับไว้เป็นบางส่วนก็ได้  ถ้าผู้ซื้อรับไว้ทั้งหมดหรือรับไว้เป็นบางส่วนก็ดี ผู้ซื้อจะลดราคาตามส่วนคุณภาพที่ด้อยลง  ข้อสัญญานี้เป็นเรื่องความรับผิดเกี่ยวกับความชำรุดบกพร่องของสินค้าที่ซื้อขาย
        โจทก์กล่าวในฟ้องยืนยันว่า จำเลยกระทำผิดข้อสัญญาโดยส่งมอบเยื่อใยสั้นฟอกขาวซัลเฟตชานอ้อยให้แก่โจทก์  แต่รายการคุณภาพความยาวเมื่อขาดหน่วยเป็นเมตรต่ำกว่าที่กำหนดไว้ 5,000 เมตร เป็น 4,180 เมตร การด้อยคุณภาพของเยื่อใยสั้นฟอกขาวซัลเฟตชานอ้อยดังกล่าว  ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย  ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนำเยื่อใยยาวมาผสมเพิ่มขึ้นให้ได้มาตรฐานคิดเป็นจำนวน 276,083.58 บาท  ขอให้บังคับจำเลยในฐานะผู้ขายรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามคำฟ้องแสดงชัดว่าโจทก์ฟ้องตามข้อสัญญาเรื่องความรับผิดเกี่ยวกับความชำรุดบกพร่องของสินค้าที่ซื้อขายเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ฟ้องบังคับตามข้อสัญญาในเรื่องอื่น อีกทั้งตามสัญญาข้อ 7 และข้อ 8 ซึ่งเป็นกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาอันมีผลทำให้ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาหรือมีสิทธิเรียกเบี้ยปรับต่อกัน  ก็มิได้กล่าวให้มีผลบังคับถึงสัญญาข้อ 4 ในเรื่องความรับผิดเกี่ยวกับความชำรุดบกพร่องของสินค้าที่ซื้อขายแต่อย่างใด  กรณีตามฟ้องจึงเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานส่งมอบสินค้าที่ชำรุดบกพร่องให้โจทก์ไม่ใช่ฟ้องให้รับผิดฐานผิดสัญญาซื้อขายจึงต้องห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ได้พบเห็นความชำรุดบกพร่องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 474

