คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2568-2569/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 279, 285 ลงโทษจำเลยตามมาตรา 285 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลยสำนวนละ 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 ประกอบด้วยมาตรา 279 จำคุกจำเลยสำนวนละ 3 เดือน เป็นการที่ศาลอุทธรณ์มิได้แก้บทมาตราแห่งความผิด เพียงแต่ปรับบทกฎหมายที่ลงโทษให้ถูกต้อง ทั้งโทษเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้แล้วก็ให้จำคุกจำเลยสำนวนละไม่เกิน 5 ปี จึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย คู่ความต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๘ และวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๒๔ จำเลยซึ่งเป็นครูโรงเรียนวัดหนองปลาหมอ กระทำอนาจารแก่เด็กหญิง จ. และเด็กหญิง ช. ตามลำดับ ผู้เสียหายทั้งสองเป็นศิษย์อยู่ในความดูแลของจำเลยมีอายุไม่เกินสิบสามปีโดยผู้เสียหายไม่ยินยอม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๙, ๒๘๕
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๙, ๒๘๕ ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๘๕ ซึ่งเป็นบทหนัก การกระทำของจำเลยเป็นสองกรรมสองสำนวนให้จำคุกจำเลยกรรมละ ๕ ปี รวมจำคุก ๑๐ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๕ ประกอบด้วยมาตรา ๒๗๙ รวมสองกระทง กระทงละหนึ่งสำนวนวางโทษจำคุกสำนวนละ ๓ เดือน รวมสองสำนวนเป็นจำคุก ๖ เดือน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๙, ๒๘๕ ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๘๕ ซึ่งเป็นบทหนัก และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๕ ประกอบด้วย มาตรา ๒๗๙ นั้น ศาลอุทธรณ์มิได้แก้บทมาตราแห่งความผิด เพียงแต่ปรับบทกฎหมายที่ลงโทษให้ถูกต้อง ทั้งโทษเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้แล้วก็ให้จำคุกจำเลยสำนวนละไม่เกินห้าปีจึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย คู่ความต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ ที่โจทก์ฎีกาขอให้เพิ่มเติมโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นการฎีกาดุลพินิจของศาลในการกำหนดโทษอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว
พิพากษายกฎีกาโจทก์ทั้งสองสำนวน

Share