คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5834/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยโดยบรรยายไว้ในคำฟ้องว่าจำเลย อยู่บ้านเลขที่ 281 เมื่อเจ้าพนักงานศาลนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้จำเลยที่บ้านเลขที่ดังกล่าวแต่ไม่พบจำเลย พบเพียงหญิงอายุประมาณ 40 ปี แจ้งว่าไม่เคยมีชื่อจำเลยอยู่ในบ้านดังกล่าว และไม่ยอมรับหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องไว้แทน โจทก์จึงต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้อง เกี่ยวกับภูมิลำเนาของจำเลยเป็นบ้านเลขที่ 482/2 ซึ่งการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องในครั้งหลังนี้ จำเลยทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องและได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี แสดงว่าจำเลยถือเอาบ้านเลขที่ 482/2 เป็นภูมิลำเนา ของจำเลยอีกแห่งหนึ่ง ฉะนั้น การปิดหมายแจ้งวันนัด การขายทอดตลาดให้จำเลยทราบที่บ้านเลขที่ดังกล่าว จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 และถือว่าจำเลยทราบวันนัดขายทอดตลาดแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองของจำเลย คือ ที่ดินโฉนดเลขที่ 14295 พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ 482/2ซึ่งปลูกในที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 6กุมภาพันธ์ 2539 ปรากฏว่านายทวีศักดิ์ สุภสิทธิ์มงคลเป็นผู้ซื้อได้ในราคา 4,700,000 บาท
จำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยไม่เคยได้รับหมายบังคับคดีและหมายแจ้งการขายทอดตลาดจากเจ้าพนักงานบังคับคดีการขายทอดตลาดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและขายทอดตลาดใหม่
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ส่งประกาศการขายทอดตลาดให้จำเลยทราบที่บ้านเลขที่ 482/2 ซึ่งจำเลยยอมรับว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 482/2 จำเลยย้ายภูมิลำเนาโดยไม่แจ้งการย้ายให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบมาเป็นข้ออ้างว่าไม่ทราบวันขายทอดตลาดไม่ได้และการขายทอดตลาดครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตชอบด้วยระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดี พ.ศ. 2522 ทั้งตามคำร้องของจำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองไม่มีเหตุยกเลิกการขายทอดตลาด ขอให้ยกคำร้อง
ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้องของจำเลย
เจ้าพนักงานบังคับคดียื่นคำคัดค้านว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งการยึดและแจ้งประกาศการขายทอดตลาดให้จำเลยทราบโดยวิธีปิดหมายที่บ้านเลขที่ 482/2 ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของจำเลยตามทะเบียนบ้าน เป็นการส่งโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ราคาขายสูงกว่าราคาประเมินของสำนักงานวางทรัพย์กลางและเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายโดยสุจริต และเปิดเผยชอบด้วยระเบียบของกระทรวงยุติธรรม ข้อคัดค้านของจำเลยไม่มีเหตุที่จะขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาข้อแรกว่า แม้จำเลยจะมีชื่อตามทะเบียนบ้านในฐานะเจ้าบ้านเลขที่ 482/2แต่จำเลยไม่ได้พักอาศัยหรือเป็นหลักแหล่งที่ทำการงานการปิดหมายแจ้งวันนัดการขายทอดตลาดที่บ้านเลขที่ดังกล่าวไม่ชอบ เห็นว่า จำเลยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเลขที่ 482/2ทั้งข้อเท็จจริงจากสำนวนได้ความว่า เมื่อเริ่มแรกโจทก์ฟ้องจำเลยโดยบรรยายไว้ในคำฟ้องว่าจำเลยอยู่บ้านเลขที่ 281แต่เมื่อเจ้าพนักงานศาลนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้จำเลยที่บ้านเลขที่ดังกล่าว แต่ไม่พบจำเลย พบเพียงหญิงอายุประมาณ 40 ปี แจ้งว่าไม่เคยมีชื่อจำเลยอยู่ในบ้านดังกล่าวและไม่ยอมรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้แทน โจทก์จึงต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับภูมิลำเนาของจำเลยเป็นบ้านเลขที่ 482/2 ซึ่งการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องในครั้งนี้ จำเลยทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องและได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีแสดงว่าจำเลยถือเอาบ้านเลขที่ 482/2 เป็นภูมิลำเนาของจำเลยอีกแห่งหนึ่ง ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว ฉะนั้น การปิดหมายแจ้งวันนัดการขายทอดตลาดให้จำเลยทราบที่บ้านเลขที่ดังกล่าวจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 ถือว่าจำเลยทราบวันนัดขายทอดตลาดแล้ว
พิพากษายืน

Share