คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่บ้านที่สวนต้องละทิ้งช้านานถึง 9-10 ปี จึงขาดกรรมสิทธิ และในกรณีเช่นนี้การครอบครองเพื่อให้ได้กรรมสิทธิในที่ดินนั้น ก็ต้องครอบครองนานถึง 10 ปีนับแต่เจ้าของได้ละทิ้งที่นั้น
อ้างฎีกาที่ 228/2481,1071-1072/2482

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยได้ร้องขอจับจองและขอรับใบเหยียบย่ำทับที่สวนของโจทก์ ขอให้ศาลแสดงว่า ที่สวนรายพิพาทเป็นของโจทก์
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่วิวาทเป็นป่ารกร้างไม่มีเจ้าของ จำเลยร้องขอจับจองเจ้าพนักงานออกใบเหยียบย่ำให้เกิน ๑ ปีแล้ว ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับศาลชั้นต้นว่า ที่พิพาทเป็นที่สวนของโจทก์ และโจทก์ฟ้องได้ไม่ขาดอายุความ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ ส่วนในประเด็นเรื่องอายุความนั้น ปรากฎว่าที่พิพาทเป็นที่สวน โจทก์ได้ครอบครองทำมาเป็นเวลาประมาณ ๓๐ ปีตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ ๔๒ บัญญัติว่า ที่บ้านที่สวนเจ้าของต้อละทิ้งมาช้านานถึง ๙-๑๐ ปีจึงขาดกรรมสิทธิ หรืออีกนัยหนึ่งการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นนั้นต้องครอบครองนานถึง ๑๐ ปี จึงได้กรรมสิทธิ ตัดสิทธิฟ้องร้องของเจ้าของเดิมตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา ๑๓๖๒ คดีนี้จำเลยถางทำเพียงปีเศษ จะอ้างอายุความตามมาตรา ๑๓๗๔ ,๑๓๗๕ ขึ้นตัดสิทธิโจทก์ไม่ได้ตามแบบอย่าง จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share