คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ปัญหาว่าศาลชอบที่จะยกปัญหาเรื่องระยะเวลาการฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินขึ้นวินิจฉัยหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ พิพากษา ว่า ที่ดิน ตาม แผนที่ ท้ายฟ้อง เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ เป็น ของ โจทก์ โจทก์ มีสิทธิ ครอบครอง ขอให้ ขับไล่ จำเลยและ บริวาร ออกจาก ที่ดิน ของ โจทก์
จำเลย ให้การ ว่า ที่ดินพิพาท มิได้ เป็น ของ โจทก์ และ โจทก์มิได้ ครอบครอง ที่ดิน ดังกล่าว จำเลย ครอบครอง ที่ดินพิพาท มาก ว่า10 ปี แล้ว จำเลย จึง ได้ สิทธิ ครอบครอง โจทก์ ไม่มี อำนาจฟ้อง และฟ้องโจทก์ ขาดอายุความ ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า โจทก์ เป็น ผู้มีสิทธิ ครอบครอง ที่ดินพิพาท เนื้อที่ ประมาณ 7 ไร่ ตาม แผนที่ สังเขป เอกสาร หมาย จ. 3 ให้จำเลย และ บริวาร ออกจาก ที่ดินพิพาท ห้ามเข้า เกี่ยวข้อง อีก ต่อไป
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “คง มี ปัญหา ที่ ขึ้น มา สู่ ศาลฎีกา แต่ เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ตาม ฎีกา ของ จำเลย ข้อ 2.3 ว่า โจทก์ นำสืบ ต่าง จากฟ้อง หรือไม่ และ ข้อ 2.4, 2.5 ว่า ศาล ชอบ ที่ จะ หยิบยก ปัญหา เรื่องระยะเวลา การ ฟ้องคดี เพื่อ เอาคืน ซึ่ง การ ครอบครอง ของ โจทก์ ขึ้น วินิจฉัยหรือไม่ และ หาก ชอบ ที่ จะ หยิบยก ขึ้น วินิจฉัย ได้ แล้ว โจทก์ ชอบ ที่ จะฟ้อง จำเลย ได้ หรือไม่ โดย จะ ได้ วินิจฉัย เป็น ลำดับ ไป ดัง ต่อไป นี้
ปัญหา ที่ จะ ได้ วินิจฉัย ต่อไป มี ว่า ศาล ชอบ ที่ จะ หยิบยก ปัญหาเรื่อง ระยะเวลา การ ฟ้องคดี เพื่อ เอาคืน ซึ่ง การ ครอบครอง ของ โจทก์ขึ้น วินิจฉัย ได้ หรือไม่ เห็นว่า ระยะเวลา ใน การ ฟ้องคดี เพื่อ เอาคืนซึ่ง การ ครอบครอง ที่ดิน นั้น ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1375 วรรคสอง บัญญัติ ว่า “การ ฟ้องคดี เพื่อ เอาคืน ซึ่ง การ ครอบครองนั้น ท่าน ว่า ต้อง ฟ้อง ภายใน ปี หนึ่ง นับแต่ เวลา ถูก แย่ง การ ครอบครอง “ซึ่ง ใน ปัญหา ข้อ นี้ จำเลย ได้ ยกขึ้น ต่อสู้ ทั้ง ใน ศาลชั้นต้น และ ในชั้นอุทธรณ์ แต่ ก็ ไม่ได้ รับ การ วินิจฉัย ให้ จึง นับ ว่า เป็น การ มิชอบอย่างไร ก็ ตาม ปัญหา ดังกล่าว เป็น ปัญหาข้อกฎหมาย อัน เกี่ยว ด้วยความสงบ เรียบร้อย ของ ประชาชน แม้ หาก จำเลย มิได้ ยกขึ้น ต่อสู้ ศาลก็ ชอบ ที่ จะ หยิบยก ขึ้น วินิจฉัย ได้ แต่ คดี นี้ จำเลย ได้ ยกขึ้น ต่อสู้มา โดย ตลอด เช่นนี้ ศาลฎีกา จึง ชอบ ที่ จะ หยิบยก ปัญหา ดังกล่าว ขึ้นวินิจฉัย ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249วรรคหนึ่ง ฎีกา ของ จำเลย ใน ส่วน นี้ จึง ฟังขึ้น
ปัญหา ที่ จะ ต้อง วินิจฉัย ต่อไป มี อีก ว่า จำเลย ได้ บุกรุก หรือแย่ง การ ครอบครอง ที่ดินพิพาท เมื่อใด เมื่อ เปรียบเทียบ ชั่งน้ำหนักพยานโจทก์ และ จำเลย แล้ว เห็นว่า พยานโจทก์ มี น้ำหนัก ดีกว่า จึงฟังได้ ว่า จำเลย บุกรุก หรือ แย่ง การ ครอบครอง ใน ที่ดินพิพาท เมื่อ ประมาณปี 2532 โจทก์ ฟ้องคดี วันที่ 1 กันยายน 2532 จึง ฟ้องคดี เพื่อเอาคืน ซึ่ง การ ครอบครอง ใน ที่ดินพิพาท ภายใน หนึ่ง ปี นับแต่ เวลาถูก แย่ง การ ครอบครอง โจทก์ จึง มีสิทธิ ครอบครอง ใน ที่ดินพิพาท ฎีกาของ จำเลย ใน ข้อ นี้ ฟังไม่ขึ้น ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษา มา นั้นศาลฎีกา เห็นพ้อง ด้วย ใน ผล ”
พิพากษายืน

Share