คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8456/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานตำรวจให้สายลับไปล่อซื้อเฮโรอีนจำเลยรับเงินค่าเฮโรอีนจากสายลับและไปนำเฮโรอีนจากที่ซ่อนเพื่อจะนำมาส่งมอบให้แก่สายลับจำเลยถูกจับขณะอยู่บริเวณสวนมะพร้าวห่างจากจุดที่สายลับรออยู่ประมาณ10เมตรและจำเลยยังไม่ได้ส่งมอบเฮโรอีนให้แก่สายลับการซื้อขายระหว่างจำเลยกับสายลับจึงยังไม่สำเร็จบริบูรณ์ยังไม่เป็นความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนสำเร็จคงมีความผิดฐานพยายามจำหน่ายเฮโรอีนเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนจำนวน 2 หลอด น้ำหนัก 1.90 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยได้จำหน่ายเฮโรอีนจำนวนดังกล่าวให้แก่ผู้มีชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติด พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 8, 15, 66, 102ริบเฮโรอีนของกลาง คืนธนบัตรจำนวน 1,100 บาท แก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนโดยไม่รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 15, 66, 102 ลงโทษจำคุก 6 ปี ลดโทษหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี ริบเฮโรอีนของกลางคืนธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อแก่เจ้าของสำหรับข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามจำหน่ายเฮโรอีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 66 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80คงจำคุก 4 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อสายลับเข้าเจรจากับจำเลยเพื่อขอซื้อเฮโรอีน จำเลยรับเงิน 1,100 บาท ไว้ และได้ไปนำเฮโรอีนจำนวน 2 หลอด จากที่ซ่อนเพื่อนำมาส่งมอบให้สายลับ ขณะถูกจับกุมจำเลยอยู่บริเวณสวนมะพร้าวห่างจากจุดที่สายลับรออยู่ประมาณ10 เมตร และจำเลยยังไม่ได้ส่งมอบเฮโรอีนให้แก่สายลับ การซื้อขายระหว่างจำเลยกับสายลับจึงยังไม่สำเร็จบริบูรณ์เพราะจำเลยถูกจับเสียก่อน การกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนสำเร็จ คงมีความผิดเพียงพยายามจำหน่ายเฮโรอีนจำนวน 2 หลอด เท่านั้น
พิพากษายืน

Share