แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานเพราะตัวโจทก์ซึ่งเป็นชาวชนบทอายุ 70 ปีเศษเข้าใจว่าศาลสั่งนัดพร้อมอีก(นัดพร้อมมา 3 ครั้งแล้ว) และบอกทนายโจทก์เช่นนั้นทนายโจทก์จึงมอบฉันทะให้เสมียนมาฟังคำสั่งและวันนัดสืบพยาน เช่นนี้ เห็นได้ว่าไม่ใช่โจทก์จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์แห่งความยุตธรรมศาลให้โจทก์ระบุพยานและนัดสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยให้การ ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ ถึงวันนัดโจทก์ไม่ยื่นบัญชีระบุพยาน จึงถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้สมฟ้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้นัดสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปใหม่ และพิพากษาตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ทางพิจารณาได้ความว่า ศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อมครั้งแรกวันที่ ๒ ตุลาคม สั่งนัดพร้อมใหม่วันที่ ๒๒ เดือนเดียวกัน สั่งนัดพร้อมใหม วันที่ ๕ พฤศจิกายน ถึงวันนัดตัวโจทก์มาศาลทนายโจทก์ไม่ได้มาด้วย ศาลนัดสืบพยานโจทก์วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยาน
คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่าการที่โจทก์ไม่ยื่นบัญชีระบุพยาน เป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๘๘ นั้นคดีมีเหตุสมควรอนุญาตให้โจทก์นำพยานเข้าสืบต่อไปหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ตามเหตุผลที่โจทก์แถลงมาในฟ้องอุทธรณ์ว่า โจทก์เข้าใจว่า ศาลสั่งนัดพร้อมในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายนอีก จึงได้บอกทนายโจทก์ว่าศาลนัดพร้อมอีกครั้งหนึ่งนั้น น่าเชื่อว่าเป็นความจริง เพราะโจทก์เป็นชาวชนบทและเป็นคนชราอายุถึง ๗๐ ปีเศษ อาจฟังรายงานพิจารณาของศาลผิดพลาดไปได้ การที่ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายมาฟังคำสั่งและวันนัดในวันนัดพร้อม ก็ส่อแสดงให้เห็นว่าทนายโจทก์เข้าใจว่าวันนั้นเป็นวันนัดพร้อมอีกครั้งหนึ่งตามที่ตัวโจทก์บอก จึงให้ตัวโจทก์มาศาลด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งเพื่อทำความตกลงกับจำเลย หากตกลงกันไม่ได้ ศาลนัดสืบพยาน ก็ให้เสมียนซึ่งมาด้วยรับทราบคำสั่งและวันนัด เห็นได้ว่าไม่ใช่เรื่องโจทก์จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแต่ประการใด ศาลฎีกาเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๗(๒) ที่ศาลอุทธรณ์เห็นสมควรให้โจทก์ระบุพยานได้และให้ศาลชั้นตันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป จึงชอบแล้ว
พิพากษายืน