คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5770/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดหลายบทหลายกระทงต่างกรรมกัน แล้วบรรยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดฐานพยายามฆ่าว่าจำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนพกยิงประทุษร้าย ส. และ ท. หลายนัดโดยมีเจตนาฆ่าบุคคลทั้งสองและคำขอท้ายคำฟ้องระบุประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 80, 288 ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ที่จะให้ศาลลงโทษจำเลยในการใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย 2 คนเป็นความผิดหลายกระทง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันคือมีอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียนกับเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่รับอนุญาต แล้วใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายสุนทร กุศลเอี่ยม และนายทวน กุศลเอี่ยม หลายนัดถูกที่หน้าท้องและแขนซ้ายโดยเจตนาฆ่า แต่แพทย์รักษาไว้ทันท่วงที บุคคลทั้งสองจึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๑, ๘๐, ๒๘๘ และพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ในระหว่างพิจารณา นายทวน กุศลเอี่ยม ผู้เสียหายร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำผิดในข้อหาพยายามฆ่าผู้เสียหายทั้งสองต่างกรรมต่างวาระกัน ลงโทษสองกรรม พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ และมาตรา ๙๑ ลงโทษกระทงละ ๑๐ ปีและผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ อีกกระทงหนึ่ง ลดโทษแล้วคงจำคุก ๑ ปีรวมจำคุก ๒๑ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นเป็นความผิดกรรมเดียว ให้ลงโทษจำคุก ๑๐ ปี รวมกับโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้เป็นจำคุก ๑๑ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีเชื่อได้ว่าฝ่ายโจทก์ร่วมและนายสุนทรมีสาเหตุวิวาทกับนางตาหรือเตือนใจ และต่างมีพวกเข้าทำร้ายกันเป็นเหตุให้ทรัพย์สินในร้านค้าจำเลยเสียหาย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนของกลางยิงโจทก์ร่วม ๓ นัด และยิงนายสุนทรซึ่งวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ภายหลังอีก ๒ นัด โดยจำเลยไม่มีเหตุยิงป้องกันตัวเองตามข้ออ้างแต่อย่างใด เมื่อโจทก์ร่วมและนายสุนทรถูกยิงที่อวัยวะสำคัญตามรายงานการชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้อง แต่ไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนา ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่า การบรรยายฟ้องของโจทก์ เป็นการบรรยายว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้อื่น ๒ กรรม และโจทก์ก็นำสืบรับฟังได้ว่า จำเลยยิงโจทก์ร่วมและนายสุนทรต่างวาระกัน ขอให้ลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปนั้นเห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดหลายบทหลายกระทงต่างกัน แล้วบรรยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดฐานพยายามฆ่าว่า “จำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนพกรีวอลเวอร์กระบอกดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑ ก. ยิงประทุษร้ายนายสุนทรกุลเอี่ยม และนายทวน กุศลเอี่ยม จำนวนหลายนัดโดยมีเจตนาฆ่าบุคคลทั้งสอง”และคำขอท้ายคำฟ้องอาญา ระบุเลขมาตรา ๙๑, ๘๐, ๒๘๘ จึงถือได้ว่า โจทก์มีความประสงค์ที่จะให้ลงโทษจำเลยในการใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย ๒ คน เป็นความผิดหลายกระทง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share