คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5746/2544

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำพิพากษาของศาลที่ให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดิน น.ส.3 ก. ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายให้แก่ ว. ต้องถือเสมือนว่าไม่มีการขายทอดตลาด และไม่มีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนสิทธิครอบครองให้แก่ ว. ทั้ง ว. ไม่ได้รับความคุ้มครองเพราะมิใช่กรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนองที่ดินดังกล่าวในระหว่างการพิจารณาคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาด จึงไม่อาจอ้างว่าผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกซึ่งรับจำนองและจดทะเบียนโดยสุจริตและไม่อาจอ้างว่าคำพิพากษาที่ให้เพิกถอนการขายทอดตลาดไม่ผูกพันผู้ร้องได้ เมื่อ ว. ไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดิน จึงไม่ใช่เจ้าของที่ดินและไม่อาจนำมาจดทะเบียนจำนองแก่ผู้ร้องได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 705 ทั้งการจดทะเบียนจำนองเป็นกรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 702 แต่การเพิกถอนการขายทอดตลาดเป็นกรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตา 296 วรรคสอง (เดิม)เป็นคนละกรณีไม่เกี่ยวข้องกัน ผู้ร้องจึงไม่ได้รับความคุ้มครอง จึงไม่มีเหตุที่ผู้ร้องจะปฏิเสธไม่ส่งมอบต้นฉบับ น.ส.3 ก ตามคำสั่งศาลชั้นต้น

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากผู้คัดค้านเป็นผู้ประกันจำเลยที่ 3 ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ต่อมาผู้คัดค้านไม่ส่งตัวจำเลยที่ 3 ไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกาตามนัด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งปรับผู้คัดค้านตามสัญญาประกัน ผู้คัดค้านไม่ชำระค่าปรับพนักงานอัยการจังหวัดสกลนครยื่นคำขอให้บังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 400 ของผู้คัดค้านนำออกขายทอดตลาด นายวริทธิ์หรือกฤษณะ ศุภผลา ประมูลได้ในราคา 550,000บาท ผู้คัดค้านยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดระหว่างการไต่สวนนายวริทธิ์นำที่ดินแปลงดังกล่าวไปจดทะเบียนจำนองแก่ผู้ร้องในวงเงิน 2,000,000 บาท ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาด นายวริทธิ์ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษายืน คดีถึงที่สุด เจ้าพนักงานบังคับคดียื่นคำร้องขอให้ศาลจังหวัดยโสธร ซึ่งบังคับคดีแทน มีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งต้นฉบับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ได้รับจดทะเบียนจำนองที่ดินจากนายวริทธิ์โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ขอให้มีคำสั่งให้นายวริทธิ์ไถ่ถอนจำนองที่ดินแปลงดังกล่าวก่อน ผู้ร้องจึงจะส่งมอบต้นฉบับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องรับจำนองที่ดินแปลงดังกล่าวในขณะคดีอยู่ระหว่างพิจารณาคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโดยไม่ตรวจสอบให้รอบคอบก่อน ขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืน

ผู้คัดค้านฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้ฎีกาโต้แย้งเป็นอย่างอื่นรับฟังได้ว่า นายวริทธิ์เป็นผู้ซื้อที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 400 จากการขายทอดตลาด ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น นายวริทธิ์นำที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) ฉบับดังกล่าวไปจดทะเบียนจำนองไว้แก่ผู้ร้อง ต่อมาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาให้เพิกถอนการขายทอดตลาดคดีถึงที่สุดแล้ว ศาลจังหวัดยโสธรซึ่งบังคับคดีแทนศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องส่งต้นฉบับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)ฉบับดังกล่าวเพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านว่า มีเหตุที่ผู้ร้องจะปฏิเสธไม่ส่งมอบต้นฉบับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ตามคำสั่งของศาลจังหวัดยโสธรดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยหรือไม่ เห็นว่าคำพิพากษาของศาลที่ให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ต้องถือเสมือนว่าไม่มีการขายทอดตลาดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) และไม่มีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนสิทธิครอบครองให้แก่นายวริทธิ์ ทั้งนายวริทธิ์ไม่ได้รับความคุ้มครองเพราะมิใช่กรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) ในระหว่างการพิจารณาคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาด จึงไม่อาจอ้างว่าผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกซึ่งรับจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ฉบับดังกล่าวโดยสุจริตและจดทะเบียนโดยสุจริต คำพิพากษาที่ให้เพิกถอนการขายทอดตลาดไม่ผูกพันผู้ร้องได้ เมื่อนายวริทธิ์ไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)จึงไม่ใช่เจ้าของที่ดินแปลงนั้น ไม่อาจนำมาจดทะเบียนจำนองแก่ผู้ร้องได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 705ทั้งการจดทะเบียนจำนองเป็นกรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702 แต่การเพิกถอนการขายทอดตลาดเป็นกรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง (เดิม) เป็นคนละกรณีไม่เกี่ยวข้องกัน ผู้ร้องจึงไม่ได้รับความคุ้มครอง จึงไม่มีเหตุที่ผู้ร้องจะปฏิเสธไม่ส่งมอบต้นฉบับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ตามคำสั่งของศาลจังหวัดยโสธรแต่อย่างใด คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4เฉพาะในส่วนนี้ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของผู้คัดค้านฟังขึ้น ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษายกคำร้องชอบแล้ว”

พิพากษายืน

Share