คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นผู้เช่ากิจการบริษัทโรงเลื่อยจักร บ. จำกัดซึ่งรับจ้างตัดและขนไม้ให้แก่บริษัท ย. จำกัดผู้รับสัมปทานทำไม้จากจำเลยโจทก์มีพันธะที่จะต้องปฏิบัติต่อบริษัท ย. จำกัดผู้รับสัมปทานตามสัญญาจ้างเท่านั้นไม่มีนิติสัมพันธ์ใดๆกับจำเลยทั้งสองแม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการตัดไม้ของกลางและมีคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลฎีกาไม่ริบไม้ของกลางก็จะถือว่าไม้ของกลางเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์หาได้ไม่โจทก์จึงไม่ถูกโต้แย้งสิทธิและไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้ชำระเงินค่าขายไม้ของกลางให้แก่โจทก์ได้

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า บริษัท ยะลาทำไม้ จำกัด ซึ่ง ได้รับ สัมปทาน ทำ ไม้ ว่าจ้าง บริษัท โรงเลื่อยจักร เบตง จำกัด ทำ ไม้ และ ขนส่ง ไม้ แทน บริษัท โรงเลื่อยจักร เบตง จำกัด ได้ว่า จ้าง โจทก์ อีก ทอด หนึ่ง เมื่อ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2525 โจทก์ ถูกจับ กุม ใน ข้อหา ร่วมกัน ทำไม้หวงห้าม โดย มิได้ รับ อนุญาต และ มี ไม้หวงห้าม ไว้ ใน ครอบครองและ ถูก ฟ้อง ต่อ ศาลจังหวัด เบตง คดีถึงที่สุด โดย ศาลฎีกา พิพากษายก ฟ้องโจทก์ ได้รับ รถยนต์บรรทุก รถแทรกเตอร์ และ เลื่อยยนต์ คืน จากพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร อำเภอ เบตง แล้ว ส่วน เงิน ค่า ไม้ ของกลางซึ่ง เจ้าหน้าที่ ผู้ เก็บรักษา ได้ ดำเนินการ ขาย ระหว่าง คดี จำนวน2,621,402.30 บาท จำเลย ทั้ง สอง ไม่คืน ให้ ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สองชำระ เงิน รวม 3,325,904.17 บาท พร้อม ดอกเบี้ย ร้อยละ เจ็ด ครึ่งต่อ ปี ใน ต้นเงิน 2,621,402.30 บาท นับแต่ วันฟ้อง เป็นต้น ไปจนกว่า จะ ชำระ เงิน เสร็จ แก่ โจทก์
จำเลย ทั้ง สอง ให้การ ว่า โจทก์ บริษัท ยะลาทำไม้ จำกัด และ บริษัท โรงเลื่อยจักร เบตง จำกัด ไม่ใช่ เจ้าของ กรรมสิทธิ์ หรือ มีสิทธิ ใด ๆ โดยชอบ ด้วย กฎหมาย ใน ไม้ พิพาท ตาม ฟ้อง ศาลจังหวัด เบตงพิพากษา ให้ริบ ของกลาง ทั้งหมด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายก ฟ้องโจทก์โดย มิได้ พิพากษาแก้ หรือ มี คำสั่ง อย่างใด ใน เรื่อง ของกลาง ศาลฎีกาพิพากษายืน ตาม คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ไม้ ของกลาง หรือ เงิน ที่ ขาย ได้ จึงคง ถูก ริบ ตาม คำพิพากษา ศาลจังหวัด เบตง โจทก์ เป็น เพียง ลูกจ้างช่วง ใน การ ตัด ฟัน ชักลาก ไม้ ให้ แก่ บริษัท ยะลาค้าไม้ จำกัด ไม่ใช่ ผู้เสียหาย ที่ มีสิทธิ ฟ้อง เรียกเงิน ค้า ไม้ ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง ชำระ เงินจำนวน 2,612,402.30 บาท พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อ ปีนับแต่ วันที่ 5 มิถุนายน 2529 เป็นต้น ไป จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ แก่ โจทก์
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า มี ปัญหา ที่ ต้อง วินิจฉัย ตาม ที่ จำเลย ทั้ง สองฎีกา ว่า โจทก์ ไม่มี อำนาจฟ้อง เพราะ มิใช่ ผู้เสียหาย และ ถูก โต้แย้งสิทธิ นั้น เห็นว่า ประเด็น ข้อพิพาท ใน คดี นี้ มี ว่า ไม้ หรือ เงิน ค่าขาย ไม้ที่ ยึด เป็น ของ โจทก์ ซึ่ง โจทก์ มีสิทธิ จะ รับ คืน จาก จำเลย หรือไม่โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น ผู้เช่า กิจการ บริษัท โรงเลื่อยจักร เบตง จำกัด ซึ่ง รับจ้าง ตัด และ ขน ไม้ ให้ แก่ บริษัท ยะลาทำไม้ จำกัด ผู้รับ สัมปทาน ตาม สัมปทาน ทำ ไม้ ธรรมดา นอกจาก ไม้สัก เอกสาร หมาย จ. 1และ สัญญาจ้าง ทำ ไม้ และ ขนส่ง ไม้ เอกสาร หมาย จ. 2 เอกสาร ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว ได้ กำหนด หน้าที่ เงื่อนไข ระหว่าง คู่สัญญา ไว้ โดย ละเอียดโจทก์ คง มี พันธะ ที่ จะ ต้อง ปฏิบัติ ต่อ บริษัท ยะลาทำไม้ จำกัด ผู้รับ สัมปทาน ตาม สัญญาจ้าง เท่านั้น ไม่มี นิติสัมพันธ์ ใด ๆ กับ จำเลย ทั้ง สองแม้ ข้อเท็จจริง จะ ฟังได้ ว่า โจทก์ เป็น ผู้ เสีย ค่าใช้จ่าย ใน การ ตัด ไม้ของกลาง และ มี คำพิพากษาถึงที่สุด ของ ศาลฎีกา ไม่ ริบ ไม้ ของกลางดัง ที่ โจทก์ ฟ้อง ก็ จะ ถือว่า ไม้ ของกลาง เป็น กรรมสิทธิ์ ของ โจทก์ หาได้ไม่ เพราะ โจทก์ มิใช่ ผู้รับ สัมปทาน ทำ ไม้ เมื่อ โจทก์ ไม่ใช่ เจ้าของไม้ ของกลาง และ ไม่มี นิติสัมพันธ์ ใด ๆ กับ จำเลย ทั้ง สอง โจทก์ จึงไม่ ถูก โต้แย้ง สิทธิ และ ไม่มี อำนาจฟ้อง จำเลย ทั้ง สอง ที่ ศาลล่าง ทั้ง สองพิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง ชำระ เงิน ค่าขาย ไม้ ของกลาง ให้ แก่ โจทก์ นั้นศาลฎีกา ไม่เห็น พ้อง ด้วย ฎีกา ของ จำเลย ทั้ง สอง ฟังขึ้น เมื่อ วินิจฉัยว่า โจทก์ ไม่มี อำนาจฟ้อง จำเลย ทั้ง สอง แล้ว ก็ ไม่จำต้อง วินิจฉัย ในประเด็น อื่น ตาม ฎีกา ของ จำเลย ทั้ง สอง ต่อไป
พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้องโจทก์

Share