แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
แม้การจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์ตามฟ้องจะอยู่นอกวัตถุประสงค์ของโจทก์แต่เมื่อจำเลยตกลงรับสินค้าไปจากโจทก์เพื่อจำหน่ายและจำเลยก็ได้รับสินค้าของโจทก์ไปจำหน่ายตลอดจนมีการชำระราคาสินค้าบางส่วนแล้วจำเลยจะมาอ้างเหตุว่าโจทก์ไม่มีวัตถุประสงค์ในการจำหน่ายเคมีภัณฑ์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้ชำระค่าสินค้าหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2533 จำเลยตกลงเป็นตัวแทนของโจทก์เพื่อนำสินค้าเคมีภัณฑ์ที่โจทก์สั่งซื้อจากบริษัทบี กริม เฮ็ลแคร์ จำกัด ไปจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไปในราคากิโลกรัมละ 450 บาท และจะต้องนำเงินค่าเคมีภัณฑ์ส่งแก่โจทก์หากจำเลยสามารถจำหน่ายได้ราคาเกินกว่าที่โจทก์กำหนดจำเลยไม่ต้องนำส่งเงินส่วนที่เกินนั้นให้โจทก์ ต่อมาโจทก์ได้มอบสินค้าเคมีภัณฑ์ให้จำเลยจำนวน 1,275 กิโลกรัม เป็นเงิน573,750 บาท หลังจากจำเลยได้นำสินค้าเคมีภัณฑ์ไปจำหน่ายแล้วจำเลยได้นำเงินค่าเคมีภัณฑ์ส่งแก่โจทก์ 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน215,000 บาท หลังจากนั้นจำเลยไม่เคยนำเงินค่าสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เหลือจำนวน 358,750 บาท มาชำระให้โจทก์อีกเลยขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าสินค้าเคมีภัณฑ์จำนวน 358,750 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า บริษัทโจทก์ไม่มีวัตถุประสงค์ในการจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 358,750 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีวัตถุประสงค์ในการจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์สีมุกโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่า แม้การจำหน่ายสินค้าเคมีภัณฑ์สีมุกตามฟ้องจะอยู่นอกวัตถุประสงค์ของโจทก์ แต่เมื่อจำเลยยอมตกลงจะรับสินค้าไปจากโจทก์เพื่อจำหน่ายและจำเลยก็ได้รับสินค้าของโจทก์ไปจำหน่ายตลอดจนมีการชำระราคาสินค้าบางส่วนแล้ว จำเลยจะมาอ้างเหตุว่าโจทก์ไม่มีวัตถุประสงค์ในการจำหน่ายเคมีภัณฑ์จึงไม่มีอำนาจฟ้องหาได้ไม่ ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า ตามคำฟ้องโจทก์ได้บรรยายว่าจำเลยเป็นตัวแทนรับสินค้าของโจทก์ไปจำหน่าย แต่การตั้งตัวแทนไม่ได้ทำเป็นหนังสือโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยปรากฏว่าโจทก์มอบหมายให้จำเลยขายสินค้าเคมีภัณฑ์สีมุกให้โดยกำหนดราคาขั้นต่ำไว้กิโลกรัมละ 450 บาท จำเลยจะขายในราคาสูงกว่าก็ได้ เงินที่ขายเกินราคาที่โจทก์กำหนดไว้นั้น จำเลยไม่ต้องนำส่งโจทก์เพียงแต่จำเลยต้องชำระเงินให้แก่โจทก์ 450 บาท ต่อ 1 กิโลกรัมในลักษณะเช่นนี้จำเลยย่อมมีสิทธิขายเคมีภัณฑ์ของโจทก์ดังกล่าวอย่างเป็นของตนเอง จึงหาใช่เป็นตัวแทนขายในนามของโจทก์ไม่และจำเลยก็ได้ให้การต่อสู้ว่าไม่ใช่ตัวแทนโจทก์ ดังนั้น กรณีจึงไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือการที่โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยชำระราคาสินค้าโดยอ้างว่ามีหนี้ผูกพันเกี่ยวด้วยการปฏิบัติตามสัญญาที่จำเลยค้างชำระแก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง”
พิพากษายืน