แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พาเด็กอายุ 13 ปีเสสไปจากมารดาเด็ก โดยเด็กเต็มไจไปกับจำเลยแม้จะเปนโดยถูกหลอกลวงก็เปนผิดตามมาตรา 275 แต่ไม่เปนผิดตามมาตรา 274.
ย่อยาว
ได้ความว่า จำเลยทั้งสามได้ไปพูดกับนางปลั่งมารดาเด็กหยิงมลิขอว่าจ้างเด็กหยิงมลิไปสแดงลิเก นางปลั่งตกลงไห้เด็กหยิงมลิไปรุ่งขึ้นจำเลยมารับเด็กหยิงมลิไปจากบ้านนางปลั่ง แล้วพาเด็กหยิงมลิเที่ยวเร่ร่อนไปที่อื่นหาได้พาไปสแดงลิเกไม่ และจำเลยเอาเข็มขัดเงินต่างหูของเด็กหยิงมลิไปด้วย เมื่อเด็กหยิงมลิซาบว่าถูกล่อลวง จึงไม่ยอมไปกับจำเลยต่อไป จำเลยได้ตบและขู่จะทำร้าย เด็กหยิงมลิจึงยอมไปกับจำเลยต่อไป จำเลยได้ตบและขู่จะทำร้าย เด็กหยิงมลิจึงยอมไปกับจำเลย ไนระหว่างนั้นนายพุดนายไสวจำเลยได้ข่มขืนกะทำการชำเราเด็กหยิงมลิจนของลับฉีกขาดเปนบาดแผล
สาลชั้นต้นพิพากสาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๗๔, ๒๗๕, ๒๗๖, ๓๓๖(๓), ๒๖๘. แต่วางโทสตามบทหนักตามมาตรา ๗๐
สาลอุธรน์พิพากสาแก้ว่าจำเลยไม่มีผิดตามมาตรา ๒๗๔ เพราะเด็กหยิงมลิยินยอมไปกับจำเลย นอกจากนั้นคงพิพากสายืน
โจทดีกาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๗๔ ด้วยสาลดีกาเห็นว่า เด็กหยิงมลิยินยอมไปกับจำเลยตั้งแต่ต้นจำเลยย่อมไม่มีความผิดตามมาตรา ๒๗๔ ซึ่งเปนบนที่บัญญัติลงโทสผู้ที่บังอาดพาเอาเด็กไปโดยเด็กมิได้เต็มไจไปด้วยอันต่างกับมาตรา ๒๗๕ ซึ่งเปนเรื่องพาเด็กไปโดยเจตนาจะหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร ถึงเด็กนั้นจะเต็มไจไปด้วยกับจำเลยก็มีความผิด จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์.