คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ป.วิธี.อาญาม.230มิได้บัญญัติฉเพาะการส่งประเด็นไปสืบแต่หย่างเดียว หากบัญญัติรวมถึงการเดินผเชินสืบด้วย.
ไนการผเชินสืบจำเลยจะไปฟังการพิจารนาหรือไม่ก็ได้หากเลยไม่ไป เมื่อสาลสืบกลับมาแล้วอ่านไห้จำเลยฟัง จำเลยไม่คัดค้านหย่างได ดังนี้ไม่ชัดต่อวิธีพิจารนา.
การพิจารนาและสืบพยานซึ่งกดหมายบังคับไห้ทำต่อหน้าจำเลยฉเพาะการพิจารนาและสืบไนสาลตาม ป. วิธีพิจารนาอาญา ม.172 เท่านั้น

ย่อยาว

จำเลยต้องหาว่าทำร้ายร่างกาย สาลได้ไปเดินผเชินสืบ ผู้เสียหายจำเลยแถลงไม่ไปไนการผเชินสืบ แต่ไห้ทนายไปแทน ครั้นถึงวันนัดทนายไม่ไป แต่ได้ขอไห้สาลถามพยานแทน เมื่อไปผเชินสืบมาแล้ว สาลได้อ่านไห้จำเลยและทนายฟัง ไม่มีการคัดค้าน
สางล่างทั้งสองพิพากสาต้องกันไห้ลงโทสจำเลยถานทำร้ายร่างกายสาหัสตามกดหมายลักสนะอาญามาตรา ๒๕๖
จำเลยดีกาว่า การพิจารนาและการเดินผเชินสืบพยานของสาลมิได้ทำต่อหน้าจำเลย
สาลดีกาเห็นว่าการเดินผเชินสืบกับการส่งประเด็นไปสืบ บัญญัติรวมกันไว้ไนวิธีพิจารนาความอาญามาตรา ๒๓๐ และไนการเดินผเชินสืบจำเลยจะไปฟังการพิจารนาหรือไม่ก็ได้หากไม่ติดไจไปฟังจะยื่นคำถามเปนหนังสือก็ได้ คดีนี้จำเลยไม่ไปโดยขอไห้สาลถามพยานไห้ตามกะบวนความ สาลสืบกลับมาแล้วอ่านคำพยานไห้จำเลฟัง จำเลยไม่คัดค้านการกะทำของสาลจึงชอบด้วยวิธีพิจารนาความอาญา ม.๒๓๐ และไม่ขัดต่อมาตรา ๑๗๒ เพราะตามที่ ม.๑๗๒ บัญญัติไห้ทำการพิจารนาและสืบพยานต่อหน้าจำเลยนั้น หมายฉเพาะการพิจารนาและสืบพยานไนสาล ดังที่ได้มีคำว่าไนสาลไว้ชัดเจนแล้ว ช้ำยังมีความตอนท้ายว่า เว้นแต่บัญญัติไว้เปนอย่างอื่น ม.๑๗๒ จึงไม่ไช่เรื่องผเชินสืบ ซึ่งต้องไช้ ม.๒๓๐ พิพากสายืน.

Share