แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเอาปืนจี้ผู้เสียหาย ปืนที่จำเลยใช้จี้นั้นยังไม่ได้ง้างนกปืนขึ้น แม้นิ้วมือของจำเลยจะอยู่ในโกร่งไกปืน สภาพของปืนก็ยังไม่พร้อมที่จะยิงได้ และมีพฤติการณ์อื่นประกอบแสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะยิง เมื่อจำเลยไม่มีเจตนายิง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับความอนุญาตและจำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนนี้ยิงนายสุชิน จันทรา โดยเจตนาจะฆ่า แต่มีเหตุสุดวิสัยมาขัดขวางเสีย โดยนายสุชินได้ปัดปืนและนายชลอแย่งปืนไป จำเลยจึงฆ่านายสุชินไม่สำเร็จ
จำเลยรับในเรื่องอาวุธปืน แต่ในข้อหาพยายามฆ่าในการปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๐ จำคุก ๑๐ ปี และรับในข้อหาอาวุธปืน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมีเรื่องไม่พอใจผู้เสียหายอยู่ก่อนแล้ว ในวันเกิดเหตุจำเลยเสพสุรามาก่อน เมื่อแลเห็นผู้เสียหายอยู่ในร้านตัดผมจำเลยจึงเข้าไปหาด้วยความมึนเมาและได้ล้วงปืนออกมาจากถุงกระดาษ เป็นปืนลูกซองสั้นทำในประเทศไทย เวลาจะยิงต้องหักลำกลองเอาลูกปืนใส่ และจะต้องง้างนกมาทางหลังจนสุด เอานิ้วตึงไกปืน นักสับลงปืนจึงจะลั่น ถ้าใส่ถูกแล้วไม่ง้างนก แม้จะดึงไกปืน นกก็ไม่สับ ปืนก็ไม่ลั่น ขณะจำเลยเอาปืนจี้นายสุชินนั้น จำเลยไม่ได้ง้างนกปืนขึ้น ฉะนั้น แม้นิ้วมือของจำเลยจะอยู่ในโกร่งไกปืน สภาพของปืนเช่นนี้ก็ยังไม่พร้อมที่จะยิงได้ ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าหากจำเลยมีเจตนาจะยิงนายสุชินจริงแล้ว จำเลยก็คงจะง้างนกปืนขึ้น เพื่อพร้อมที่จะยิงได้ทันที และนายสุชินจะไม่มีโอกาสเข้าขัดขวางจำเลยได้ทัน เพราะนายสุชินนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัดผม มีผ้าคลุมเกะกะอยู่รอบตัว พฤติการณ์จึงส่งแสดงให้เห็นว่า จำเลยชักปืนออกขู่นางสุชินเพื่อให้กลัวด้วยฤทธิ์เมาของจำเลยเท่านั้น อนึ่ง ตอนที่นายสุชินและนายชลอเข้าแย่งปืนจากจำเลย พยานโจทก์ทั้งสองก็รับว่าจำเลยมิได้ขัดขืนประการใด ปล่อยให้นายชลอเอาปืนไปโดยดี เป็นข้อประกอบให้เห็นเจตนาของจำเลยเด่นชัดขึ้นว่า จำเลยมิได้มีเจตนาจะฆ่านายสุชินแต่อย่างใด ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๘๘, ๘๐ นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นเสีย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.