คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5693/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 601 ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นปีหนึ่ง นับแต่วันการชำรุดบกพร่องได้ปรากฏขึ้น แต่เมื่อความชำรุดบกพร่องเกิดขึ้นแล้ว โจทก์ผู้ว่าจ้างแจ้งให้จำเลยที่ 1 ผู้รับจ้างทำการแก้ไขซ่อมแซม จำเลยที่ 1 ตกลงให้โจทก์เป็นผู้ทำการแก้ไขซ่อมแซมโดยแจ้งค่าใช้จ่ายให้จำเลยที่ 1 ทราบ จึงเกิดเป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 เมื่อโจทก์ได้ทำการแก้ไขซ่อมแซมตามที่จำเลยที่ 1 ตกลงแล้วและได้มาฟ้องเรียกค่าใช้จ่ายดังกล่าว จึงมิใช่เป็นเรื่องที่ฟ้องให้รับผิดในความชำรุดบกพร่อง แต่เป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามข้อตกลง ซึ่งมิได้มีอายุความไว้เป็นการเฉพาะจึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายจำนวน378,716.39 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน349,315.67 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 279,265.93 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2530 เป็นต้นไป จนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 30เมษายน 2527 โจทก์ได้ว่าจ้างให้จำเลยที่ 1 สร้างถนนแอสฟัลท์ติดคอนกรีตบริเวณโครงการก่อสร้างโรงจักรพลังไอน้ำแม่เมาะโดยมีเงื่อนไขว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้วและภายในกำหนด 1 ปี หากปรากฏว่าส่วนใดส่วนหนึ่งของงานเกิดชำรุดเสียหาย อันเกิดจากความบกพร่องโดยทำไว้ไม่เรียบร้อย หรือใช้สิ่งของที่ไม่ดีหรือทำไม่ถูกต้องตามหลักวิชา ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบทำการแก้ไขใหม่ให้เรียบร้อยโดยที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันรับผิดต่อโจทก์ หากจำเลยที่ 1ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาโดยโจทก์ไม่จำต้องเรียกให้จำเลยที่ 1ชำระก่อน จำเลยที่ 1 ได้สร้างถนนให้โจทก์เสร็จเรียบร้อยและโจทก์ได้รับงานไว้แต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2528 ต่อมาวันที่14 เมษายน 2528 ถนนแอสฟัลท์ติดคอนกรีตเกิดความเสียหายมีการทรุดตัวแตกแยกตัวออกหลายแห่ง โจทก์แจ้งให้จำเลยที่ 1 ทำการซ่อมจำเลยที่ 1 ขอเลื่อนเวลาทำการซ่อม ผลสุดท้ายไม่ได้ทำการซ่อมโจทก์จึงแจ้งให้จำเลยที่ 1 ทำการซ่อมภายใน 15 วัน หากไม่ดำเนินการโจทก์จะดำเนินการซ่อมเอง จำเลยที่ 1 มีหนังสือให้โจทก์ดำเนินการซ่อมเองและแจ้งค่าใช้จ่ายไปยังจำเลยที่ 1 โจทก์ได้ทำการซ่อมแซมเสร็จเมื่อเดือนกันยายน 2529
ฎีกาประการที่สอง คดีขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า แม้จะเป็นเรื่องการจ้างทำของ และเมื่อส่งมอบงานที่ทำแล้วและเกิดชำรุดบกพร่องประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 601 ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นปีหนึ่ง นับแต่วันการชำรุดบกพร่องได้ปรากฏขึ้นก็ตาม แต่คดีนี้เมื่อความชำรุดบกพร่องเกิดขึ้นแล้ว โจทก์แจ้งให้จำเลยที่ 1 ทำการแก้ไขซ่อมแซม จำเลยที่ 1 ตกลงให้โจทก์เป็นผู้ทำการแก้ไขซ่อมแซมโดยแจ้งค่าใช้จ่ายให้จำเลยที่ 1 ทราบ จึงเกิดเป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 เมื่อโจทก์ได้ทำการแก้ไขซ่อมแซมตามที่จำเลยที่ 1ตกลงแล้วจึงมิใช่เป็นเรื่องที่ฟ้องให้รับผิดในความชำรุดบกพร่องแต่เป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดตามข้อตกลง ซึ่งมิได้บัญญัติอายุความไว้เป็นการเฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิม คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ”
พิพากษายืน

Share