คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5643/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวเพียงว่าสัญญาเช่ายังไม่ครบอายุ ยังมีอายุสัญญาเช่าอีก 9 ปี โดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงสนับสนุนว่าเหตุใดจำเลยจึงยังคงมีสิทธิอยู่อีก ทั้ง ๆ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า สัญญาเช่ามีผลบังคับตามกฎหมายได้เพียง 3 ปี ซึ่งครบกำหนดไปแล้ว และโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้ว คำร้องขอของจำเลยจึงมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นเป็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากตึกแถวซึ่งปลูกสร้างบนที่ดินที่โจทก์เช่ามา กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ว่า โจทก์ทราบว่าจำเลยยังคงอยู่ในตึกแถวพิพาท แต่กลับขอให้ศาลแจ้งคำฟ้องให้จำเลยทราบโดยวิธีประกาศทางหนังสือพิมพ์ จำเลยเพิ่งทราบภายหลังว่าถูกฟ้อง มิได้จงใจขาดนัด จำเลยยังเหลืออายุสัญญาเช่าอีก 9 ปี หากให้โอกาสต่อสู้คดีจะมีทางชนะคดีโจทก์ได้
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ข้อคัดค้านของจำเลยไม่มีเหตุผลและหลักฐานเพียงพอที่จะให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นหรือไม่ เห็นว่าตามคำร้องขอของจำเลยกล่าวเพียงว่า จำเลยเช่าตึกแถวพิพาทจากบริษัทนายเลิศ จำกัด ใช้อยู่อาศัยและรับจ้างติดเย็บเสื้อผ้าตั้งแต่ปี 2523 เป็นเวลา 11 ปี แล้ว สัญญาเช่ายังไม่ครบอายุยังคงมีอายุสัญญาเช่าอีก 9 ปี หากเปิดโอกาสให้จำเลยต่อสู้คดีจะมีทางชนะคดีโจทก์ได้ จำเลยมิได้โต้แย้งว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบประการใด เพราะเหตุใด จำเลยกล่าวอ้างลอย ๆ ว่า สัญญาเช่ายังไม่ครบอายุยังมีอายุสัญญาเช่าอีก 9 ปีโดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงสนับสนุนว่าเหตุใดจำเลยยังคงมีสิทธิอยู่ตามสัญญาอีก 9 ปี ทั้ง ๆ ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยทำสัญญาเช่ามีกำหนด 20 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงมีผลบังคับตามกฎหมายได้เพียง 3 ปีซึ่งครบกำหนดในวันที่ 30 มิถุนายน 2525 หลังจากนั้นโจทก์ก็ได้บอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้ว คำร้องขอของจำเลยจึงมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น เป็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคท้าย
พิพากษายืน

Share