คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยจำนองที่ดินไว้กับโจทก์ แล้วนำไปขายฝากกับผู้ร้องและไม่ไถ่กรรมสิทธิ์จึงตกเป็นของผู้ร้องโดยมีภารจำนองติดไปด้วย โจทก์จึงมีสิทธิบอกกล่าวแก่ผู้ร้องว่ามีความจำนงจะบังคับจำนองแก่ผู้ร้อง ซึ่งเป็นผู้รับโอนทรัพย์สินจำนองจากจำเลยได้ตาม มาตรา 736, 737 เมื่อโจทก์ยังไม่ได้ฟ้องขอบังคับจำนองแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องยังไม่ได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์ยังไม่มีสิทธิจะยึดที่พิพาทที่จำนองแก่โจทก์ เพราะผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอก
โจทก์ผู้รับจำนองมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ มิพักต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่ตามมาตรา 702 (2)

ย่อยาว

โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทอ้างว่าเป็นของจำเลยซึ่งได้จำนองไว้กับโจทก์
ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าที่พิพาทไม่ใช่ของจำเลย ผู้ร้องรับซื้อฝากจากจำเลยจำเลยไม่ไถ่จึงหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ขอให้ศาลสั่งปล่อยการยึดทรัพย์
โจทก์ให้การว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย จำเลยได้ทำสัญญาจำนองโจทก์ไว้จำเลยจะขายฝากที่พิพาทให้ผู้ร้องหรือไม่ไม่รับรอง โจทก์มีสิทธิตามสัญญาจำนองจึงยึดที่พิพาทขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามสัญญาจำนองได้ โดยไม่ต้องคำนึงว่ามีการขายฝากให้แก่ผู้ร้องหรือไม่ ขณะนี้จำเลยครอบครองที่พิพาทอยู่ ผู้ร้องไม่มีอำนาจร้องขัดทรัพย์
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จำเลยได้ขายฝากให้แก่ผู้ร้องจนหมดสิทธิไถ่คืน กรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ร้องนับแต่วันซื้อฝาก แม้จำเลยจะครอบครองที่พิพาทอยู่ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ เพราะไม่เกิน ๑๐ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ แม้จะปรากฏว่าติดสัญญาจำนองต่อโจทก์ไว้ก่อนขายฝาก โจทก์ไม่มีอำนาจยึดที่พิพาทเพราะผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกคดีหาได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ไม่ การที่โจทก์มีสิทธิจำนองเหนือที่พิพาทอย่างไร ชอบที่จะไปว่ากล่าวตามกฎหมายว่าด้วยการจำนอง จึงปล่อยการยึด
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้ทำสัญญาจำนองที่พิพาทไว้กับโจทก์ ต่อมาได้ทำสัญญาขายฝากที่พิพาทให้แก่ผู้ร้อง มีกำหนดไถ่ ๓ ปี แต่จำเลยไม่ไถ่คืนภายในกำหนด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๙๑ กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทจึงตกเป็นของผู้ร้องนับแต่วันซื้อฝาก โดยมีภารจำนองติดไปด้วย เมื่อจำเลยยังไม่ได้ไถ่การจำนอง ภารจำนองยังติดอยู่กับที่ดินพิพาท ฉะนั้น โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับจำนองจึงมีสิทธิจะบอกกล่าวแก่ผู้ร้องว่ามีความจำนองจะบังคับจำนองแก่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับโอนทรัพย์สินจำนองจากจำเลยได้ตามมาตรา ๗๓๖, ๗๓๗ เมื่อโจทก์ยังไม่ได้ฟ้องขอบังคับจำนองแก่ผู้ร้อง ผู้ร้องยังไม่ได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ โจทก์ยังไม่มีสิทธิจะยึดที่พิพาทที่จำนองแก่โจทก์ เพราะผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอก ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทอยู่นั้น โจทก์มิได้กล่าวอ้างว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินพิพาทเป็นการขัดแย้งกับอำนาจครอบครองของผู้ร้องตามสัญญาขายฝากแต่อย่างไรคดีไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะต้องวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจครอบครองของจำเลย โจทก์ผู้รับจำนองมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ มิพักต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่ตามมาตรา ๗๐๒ (๒)
พิพากษายืนยกฎีกาโจทก์

Share