คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564-565/2551

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่ศาลสั่งให้พิจารณาคดีรวมกัน แม้ผู้คัดค้านยื่นฎีกาทั้งสองสำนวนเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้มาในฎีกาฉบับเดียวกัน ก็ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเป็นรายคดีตามตาราง 1 (2) (ก) ท้าย ป.วิ.พ. เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาให้ครบถ้วน และศาลชั้นต้นมีหมายแจ้งให้ผู้คัดค้านทราบแล้ว แต่ผู้คัดค้านไม่ชำระจึงเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2) ประกอบมาตรา 247

ย่อยาว

คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาและมีคำสั่งโดยให้เรียกนางสาวจินดาหรือนางจิราภรณ์ผู้ร้องทั้งสองสำนวนว่า ผู้ร้อง และเรียกนายถิรเดชหรือเซี๊ยะเฮี้ยงผู้คัดค้านทั้งสองสำนวนว่า ผู้คัดค้าน
คดีสืบเนื่องมาจากเดิมผู้ร้องทั้งสองสำนวนยื่นคำร้องขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกแฟมมิลี่ และห้างหุ้นส่วนจำกัดเภสัชบางกอกฟามาซี อ้างเหตุว่าหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนจำกัดทั้งสองทะเลาะวิวาทและขัดแย้งกันอย่างรุนแรงไม่สามารถปรองดองกันได้จนไม่อาจดำเนินกิจการต่อไป ขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้ชำระบัญชี ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านทั้งสองสำนวนยอมรับว่า หุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนจำกัดทั้งสองทะเลาะวิวาทและขัดแย้งกันจริง หากศาลมีคำสั่งให้เลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดทั้งสองขอให้ตั้งผู้คัดค้านซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ชำระบัญชี ศาลชั้นต้นสอบผู้ร้องและผู้คัดค้านแล้วงดไต่สวนทั้งสองสำนวนและมีคำสั่งให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกแฟมมิลี่กับห้างหุ้นส่วนจำกัดเภสัชบางกอกฟามาซีเลิกกัน และตั้งผู้ร้องกับผู้คัดค้านเป็นผู้ชำระบัญชีร่วมกันทั้งสองสำนวนคดีถึงที่สุดแล้ว ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องทั้งสองสำนวนว่า ผู้ร้องได้ดำเนินการเพื่อขอจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดทั้งสองแล้ว แต่ผู้คัดค้านไม่ให้ความร่วมมือ ทำให้ไม่สามารถชำระบัญชีได้ ขอให้มีคำสั่งถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัดทั้งสอง และให้ผู้ร้องเป็นผู้ชำระบัญชีผู้เดียว ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านทั้งสองสำนวนว่า ผู้คัดค้านให้ความร่วมมือแล้ว แต่หุ้นส่วนบางคนปิดบังซ่อนเร้น ยักย้ายทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนจำกัดทั้งสอง และขัดขวางการทำหน้าที่ชำระบัญชีของผู้คัดค้าน ขอให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้ชำระบัญชีและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้ชำระบัญชีผู้เดียว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งถอนผู้ร้องและผู้คัดค้านจากการเป็นผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัดทั้งสอง และตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นผู้ชำระบัญชีแทน
ผู้ร้องและผู้คัดค้านอุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ผู้คัดค้านถึงแก่กรรม ผู้ร้องยื่นคำแถลงขอให้จำหน่ายคดีเฉพาะผู้คัดค้าน ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะผู้คัดค้านออกจากสารบบความทั้งสองสำนวน
ผู้คัดค้านโดยทนายความฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า คดีทั้งสองสำนวนที่ศาลชั้นต้นสั่งให้พิจารณาคดีรวมกันนี้ แม้ผู้คัดค้านยื่นฎีกาโต้แย้งคำสั่งศาลอุทธรณ์มาในฎีกาฉบับเดียวกันว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้จำหน่ายคดีทั้งสองสำนวนของผู้คัดค้านไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ผู้คัดค้านก็ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเป็นรายคดีไปตามตาราง 1 ข้อ 2 (ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาให้ครบถ้วน และศาลชั้นต้นมีหมายแจ้งให้ผู้คัดค้านทราบแล้ว แต่ผู้คัดค้านไม่ชำระ กรณีถือได้ว่าผู้คัดค้านเพิกเฉยไม่ดำเนินการภายในเวลาที่ศาลกำหนด เป็นการทิ้งฟ้องฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) ประกอบมาตรา 247
จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา

Share