แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
สัญญาที่โจทก์รับจ้างว่าความว่าต่างให้จำเลยทั้งสามโดยคิดค่าจ้างร้อยละสามสิบของเงินที่ได้มาทั้งหมด มิได้คิดจากจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้องเป็นการแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทอันจะพึงได้แก่ลูกความจึงมีวัตถุประสงค์ขัดต่อ พ.ร.บ. ทนายความพ.ศ. 2508 มาตรา 41 ประกอบกับ พ.ร.บ. ทนายความ พุทธศักราช 2477มาตรา 12(2) เป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 113 แม้ต่อมาจะได้มีพ.ร.บ. ทนายความ พ.ศ. 2528 ให้ยกเลิก พ.ร.บ. ทนายความพ.ศ. 2508 ไปแล้ว และกำหนดให้คณะกรรมการ(คณะกรรมการสภาทนายความ) ออกข้อบังคับว่าด้วยมรรยาท ทนายความตามมาตรา 53 ซึ่งข้อบังคับนั้นมิได้กำหนดเรื่องค่าจ้างการว่าความไว้ก็ตาม ก็ไม่ทำให้สัญญาที่เป็นโมฆะแต่ต้น กลับสมบูรณ์ขึ้น.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าจ้างว่าความพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสามให้การว่า โจทก์ได้รับเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่ศาลส่งคืนไว้โดยไม่จ่ายคืนแก่จำเลย และข้อตกลงเรื่องค่าจ้างว่าความเป็นโมฆะ
วันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และจำเลยทั้งสามท้ากันว่า ถ้าข้อตกลงเรื่องค่าจ้างว่าความเป็นโมฆะ โจทก์ยอมแพ้ ถ้าสมบูรณ์ จำเลยยอมชำระเงินให้โจทก์ตามฟ้องขอให้ศาลวินิจฉัยสัญญาว่าความตามที่ท้ากัน โจทก์และจำเลยทั้งสามไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาโจทก์เฉพาะข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ข้อเท็จจริงฟังยุติว่า จำเลยทั้งสามตกลงจ้างโจทก์ว่าความโดยคิดค่าจ้างร้อยละสามสิบของเงินที่ได้มาทั้งหมด มิได้คิดจากจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้อง และที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์คิดค่าจ้างว่าความร้อยละสามสิบของเงินที่ได้มาทั้งหมดมิได้คิดจากจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้อง และที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์คิดคิดค่าจ้างว่าความร้อยละสามสิบของเงินที่ได้มา โดยจำเลยทั้งสามตกลงด้วยในลัษณะเช่นนี้ เป็นการตกลงที่ชอบด้วยกฎหมายนั้น พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาที่โจทก์รับจ้างว่าความว่าต่างให้จำเลยทั้งสามโดยวิธีสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทอันจะพึงได้แก่ลูกความ จึงมีวัตถุประสงค์ขัดต่อพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2508 มาตรา 41 ประกอบกับพระราชบัญญัติทนายความ พุทธศักราช 2477 มาตรา 12(2) เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 แม้ต่อมาจะได้มีพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติทนายความพ.ศ. 2508 ไปแล้ว และตามพระราชบัญญัติดังกล่าวมีบทเฉพาะกาลมาตรา 86 กำหนดให้คณะกรรมการออกข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความตามมาตรา 53 ตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 103 ตอนที่ 25ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2529 หมวด 3 มรรยาทต่อหัวความนั้น มิได้กำหนดเรื่องค่าจ้างการว่าความไว้ก็ตาม ก็ไม่ทำให้สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยทั้งสามที่เป็นโมฆะมาแต่ต้นมาแล้วกลับสมบูรณ์ได้อีกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.