คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อย่างไรไม่เรียกว่าเป็นตัวการกระทำผิดด้วยกัน จำเลย 3 คนสมคบกันเข้าทำร้ายผู้ 1 แต่มีผู้อื่นเข้ามายกไม้รับจึงเลยถูกมีดที่จำเลยคน 1 ฟันลงไปดังนี้ จำเลยอีก 2 คนไม่มีผิดฐานเป็นตัวการทำร้ายผู้เข้ามาขัดขวางนั้นด้วย

ย่อยาว

ได้ความว่า ล. กับ ช. เดิรมาด้วยกันจำเลยทั้ง ๓ คนมีมีดแลไม้วิ่งออกมา ผ. จำเลยถาม ล.ว่ามึงจะเอาใคร ล.ตอบว่าไม่ได้ทำใคร ทันใดพี่สาวจำเลยเอาไม้ตี ล. ๆ เอาตะพลรับไว้ ผ.จำเลยยกมีดฟัน ล.มีดจึงกลับถูกมือ ช. เป็นบาดแผลสาหัส จำเลยทั้ง ๓ ก็กลับรุมทำร้าย ล. ๆป้องกันไว้จึงไม่ถูกบาดเจ็บ
ศาลเดิมพิพากษาให้จำคุกจำเลยคนละ ๒ ปี ตามมาตรา ๒๕๖-๓๓๘-๖๓ กับเพิ่มโทษ ฉ.จำเลย ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๒
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ย.จำเลยผู้เดียวทำร้าย ช.บาดเจ็บสาหัส ให้ลงโทษ ย.ฐานนี้ตามศาลเดิม แลให้ลงโทษจำเลยทั้ง ๓ ฐานทำร้ายร่างกาย ล.ไม่ถึงบาดเจ็บตามมาตรา ๓๓๘ ข้อ ๓ ปรับคนละ ๓๐ บาท แลให้เพิ่มค่าปรับ ฉ.๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๒
โจทก์ฎีกาว่า ผ.แล ฉ.จำเลยควรมีโทษฐานทำร้ายร่างกาย ช.บาดเจ็บสาหัส เช่นเดียวกับ ย.จำเลย อ้างฎีกาที่ ๘๒๐/๒๔๖๒
ศาลฎีกาเห็นว่าตามข้อเท็จจริงเห็นได้ว่าจำเลยทั้ง ๓ ไม่ได้ตั้งใจทำร้าย ช.แต่ตั้งใจจะทำร้าย ล. ช.ถูกบาดเจ็บก็เพราะยกไม้รับมีดที่ ย.ฟัน ล. ฉ.แล ย.จำเลยจึงไม่ควรรับโทษฐานเป็นตัวการทำร้าย ช.ฎีกาที่โจทก์อ้างไม่ตรงกับรูปคดี แลเห็นว่าความผิดฐานทำร้าย ล.แล ช.ไม่ใช่ความผิด อย่างเดียวกัน แต่เป็นคนละกะทงความผิด จึงไม่เข้า ม.๖๓ ที่โจทก์อ้าง ให้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share