คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 562/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปลูกเรือนอยู่ในที่ผู้อื่นเขาโดยอาศัยสิทธิการเช่าที่ดินของน้องภรรยา เมื่อน้องภรรยาบอกเลิกการเช่าที่ดินกับเจ้า ของที่ดินแล้ว คนย่อมไม่มีสิทธิอันใดที่จะให้เรือนตนคงปลูกอยู่ในที่ดินของเขาค่อไปได้แม้ผู้เช่าเรือนนั้นอยู่อาศัย ก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยกับบริวารและรื้อเรือนออกไปจากที่ดินของโจทก์.
จำเลยต่อสู้ว่า เช่า และว่าคดีขาดอายุความ
นางเจริญผู้ร้อง ร้องสอดเข้ามาว่าเป็นผู้เช่าเรือนพิพาทอยู่อาศัย ย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยรื้อเรือนรายพิพาทออกไปจากที่ดินของโจทก์ และให้ผู้ร้องสอดไปจากที่พิพาท ด้วย.
จำเลยและผู้ร้องสอดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.
จำเลยและผู้ร้องสอดฎีกา ต่อมา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่า นางนันทาเช่าที่ดินจากโจทก์ โดยอ้างว่าเป็นเรือนของนางนันทาเอง มิได้เช่าแทนจำเลย ทั้งจำเลยก็ไม่ได้มอบหมายให้นางนันทาไปทำสัญญาแทน นางนันทาจึงไม่ใช่เป็นตัวแทนของจำเลย ในการเช่าที่ดินนั้น เมื่อนางนันทาบอกเลิกการเช่าที่ดินต่อโจทก์แล้ว จำเลยย่อมไม่มีสิทธิอันใดที่จะให้เรือนของจำเลย คงปลูกอยู่ในที่ดินของโจทก์ต่อไปได้ ฉะนั้นผู้ร้องสอดซึ่งเป็นผู้เช่าเรือนของจำเลยอยู่ ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ.
จึงพิพากษายืน.

Share